ประวัติ Karl Lagerfeld พบกับเรื่องราวของวีรบุรุษคนสำคัญของวงการแฟชั่น
ประวัติ Karl Lagerfeld ว่ากันว่า Chanel คือแบรนด์หนึ่ง ที่ทางนิตยสาร Forbes ได้จัดอันดับไว้ว่า เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงถึงอันดับที่ 87 ของโลก เมื่อปี 2018 ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ชาแนล เป็นแบรนด์ที่ยังคงติดตรึงในความทรงจำหลายคน ด้วยภาพลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วย ความมีเอกลักษณ์และมีสไตล์ แบบสุภาพสตรี ที่มีความ Feminine แบบชัดเจน
แต่มีใครรู้บ้างไหมว่า กว่าที่ แบรนด์ชาแนล จะก้าวผ่านยุคตกต่ำหลังสงครามโลก และกลายมาเป็นแบรนด์ชั้นนำในวงการแฟชั่นระดับโลกนี้ ที่มีความโดดเด่นเหนือกาลเวลาได้นั้น เป็นเพราะมี Karl Lagerfeld ดีไซน์เนอร์ผู้มากความสามารถ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ ให้กับห้องเสื้อ Chanel มายาวนานกว่า 36 ปี ร่วมสร้าง Product Iconic มากมายให้กับแบรนด์ และยังทำให้กระเป๋าชาแนลกลายเป็นที่หมายปองของผู้หญิงทั่วโลก
จากที่ชาแนล เคยเป็นแบรนด์ที่ตกต่ำ ในยุคหลังสงครามโลก ก็กลายมาเป็นแบรนด์ชั้นนำ โดดเด่นเหนือกาลเวลา ด้วยแรงปฏิวัติของดีไซนเนอร์ระดับโลกคนนี้ ‘Karl Lagerfeld’
ประวัติ เส้นทางบนสายแฟชั่นของ Karl Lagerfeld ก่อนเข้าสู่โลกของชาแนล
ก่อนที่เขาจะได้ร่วมงานกับ แบรนด์ชาแนล Karl Lagerfeld (คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์) หรือ ปู่คาร์ล ที่คนในวงการแฟชั่นเรียกขาน เขาเป็นชายที่เกิดในประเทศเยอรมนี เมือง Hamburg (ฮัมเบิร์ก) ก่อนจะย้ายเข้ามาอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่ออายุได้เพียง 14 ปี เขาชอบอ่านนิตยสารแฟชั่น และชอบตัดรูปมาแปะไว้ดูเล่นเป็นประจำ เรียกได้ว่างานศิลปะการออกแบบ เป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือดของเขามาตั้งแต่จำความได้
จนเมื่ออายุได้ 21 ปี ก้าวแรกในวงการแฟชั่นของ ลาเกอร์เฟลด์ ก็เริ่มเฉิดฉาย เมื่อเขาได้เข้าร่วมการประกวดตัดชุดของ International Wool Secretaries โดย คาร์ล ได้ชนะเลิศในสาขาการตัดเย็บเสื้อโค้ท และเป็นปีเดียวกันกับที่ Yves Saint Laurent (อีฟว์ แซ็ง โลร็อง) เองก็ลงประกวด และชนะในสาขาการตัดชุดเดรสสำหรับสตรีด้วยเช่นกัน
ลาเกอร์เฟลด์ อายุ 21 ปี และ Yves Saint Laurent อายุ 18 ปี ที่ตอนนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักในขณะนั้น ได้ชนะการประกวดออกแบบแฟชั่นโดย International Wool Secretariat ในปี 1954
การชนะการประกวด ทำให้เขากลายเป็นคนในวงการแฟชั่นอย่างเต็มตัว ด้วยการร่วมงานกับห้องเสื้อของแบรนด์ดังมากมาย ทั้งในสหรัฐอเมริกา และอิตาลี รวมไปถึง มีโอกาสได้ทำ Haute Couture (โอต์ กูตูร์) ภายใต้ชื่อ Roland Karl เป็นครั้งแรก ซึ่งแบรนด์ที่ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ได้ทำการร่วมงานก่อนเข้ามาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ให้ห้องเสื้อ ชาแนล สามารถไล่เรียงได้ ดังนี้
Pierre Balmain : ปิแอร์ บัลแมง เป็นดีไซเนอร์มากความสามารถในช่วงปีค.ศ. 1955 และเป็นผู้ดีไซน์ฉลองพระองค์ของสมเด็จพระบรมราชินินาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงใส่ครั้งตอนไปประพาสยุโรป
Jean Patou : ฌอง ปาตู คืออีกหนึ่งแบรนด์ชั้นนำที่คาร์ลได้เข้าไปร่วมงาน และที่นี่ทำให้เขามีผลงาน Haute Couture (โอต์ กูตูร์) ครั้งแรกภายใต้ชื่อว่า Roland Karl แต่สุดท้าย คาร์ล ก็ตัดสินใจลาออกไปเรียนต่อที่ อิตาลี หลังจากที่ทำงานในห้องเสื้อมาได้ 6 ปี
Tiziano : คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ได้ร่วมงานกับ ติเซียโน หลังจากที่มาอิตาลี ซึ่งเป็นแห่งแรก ที่ห้องเสื้อนี้ เขาได้มีโอกาสตัดชุดหรูหราให้กับดาราดังหลายท่าน รวมไปถึงบุคคลสูงศักดิ์ที่เป็นราชนิกุลด้วยเช่นกัน เช่น Doris Duke, Princess Marcella Borghese เป็นต้น
Chloe : โคลเอ้ อีกหนึ่งแบรนด์ที่ คาร์ล รับทำเป็น Freelance ขณะเขายังศึกษาต่อ ที่นี่เขาไม่ได้รับหน้าที่เป็นดีไซน์เนอร์หลัก แต่ก็มีผลงานแปลกตาออกมาให้ร้องว้าว คือ ‘Surprise Skirt’ ที่เป็นลักษณะกางเกงที่เหมือนประโปรงแต่ยาวแค่เข่า ซึ่งยังเป็นแม่พิมพ์ที่มีความคิดมาถึงปัจจุบัน
Valentino : แม้แต่ วาเลนติโน คาร์ล ก็ยังเคยได้เป็นฟรีแลนซ์ช่วยออกแบบมาแล้วเช่นกัน แต่เป็นเพราะเขายังติดภารกิจในการศึกษาต่อ ที่นี่จึงเป็นอีกที่ที่คาร์ลไม่ได้วาดลวดลายอะไรเป็นพิเศษเอาไว้ เพียงแต่อยู่ช่วยเป็นลูกมือเท่านั้น
FENDI : สำหรับแบรนด์แบรนด์ FENDI (เฟนดิ) ในขณะนั้นยังอยู่ในช่วงวิกฤติ เพราะทางแบรนด์ไม่ได้มีสินค้าตัวชูโรง และยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง คาร์ล ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในห้องเสื้อ และได้รับหน้าที่ให้ดูแลฝ่ายตัดเย็บโค้ทขนสัตว์ และเขาก็ทำมันออกมาอย่างดี แถมยังมีส่วนช่วยทำให้แบรนด์ เฟนดิ กลายเป็นแบรนด์หรูหรา มีชื่อเสียง เช่นเดียวในปัจจุบัน
Chanel : อแลง แวร์ตไฮเมอร์ (Alain Wertheimer) คือผู้เชื้อเชิญ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ให้เข้มามีส่วนร่วมกับแบรนด์ ชาแนล และเขาก็ตัดสินใจตอบรับทันที และได้ร่วมงานกับแบรนด์ทางแบรนด์ชาแนลมาจวบจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต
สร้างซิกเนเจอร์ ที่ทำให้แบรนด์ Chanel อยู่เหนือกาลเวลา
คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เริ่มต้นทำงานร่วมกับแบรนด์ชาแนล ในปีค.ศ. 1982 เขาได้พลิกโฉมหน้าแบรนด์ Chanel ให้กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง จากการคิดค้น Signature ใหม่ ๆ ออกมา
ทำให้ผู้คนจำภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ง่ายกว่าเดิม เช่น สัญลักษณ์ตัว C ไขว้ หรือดอกคามีเลียสีขาว เป็นต้น โดยนำสัญลักษณ์เหล่านี้ Present ไว้เป็นตราประทับของสินค้า จนผู้คนจดจำได้อย่างขึ้นใจว่านี่คือแบรนด์ Chanel
กระเป๋าชาแนล คงเป็นอีกหนึ่ง สินค้า ที่ใครหลายคน เพียงแค่หลับตา ก็เห็นภาพพิมพ์ที่ติดตา ด้วยการประยุกต์ใส่โซ่ทอง ใช้หนังหลากหลายแบบ มีผลิตออกมาหลากหลายรุ่น ทำให้สามารถแบ่งเป็นรุ่นที่นิยมและคลาสสิคตลอดกาลได้
ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> ดูบอล , UFABET
บทความอื่น ๆ ที่แนะนำ >> กระเป๋าทำงานผู้หญิง