เจตนาของบทความ

เพื่อเปิดเผยแก่นแท้ของชื่อแบรนด์และทำความเข้าใจแนวคิดของการตั้งชื่อแบรนด์ แบบไหนถึงเรียกว่าแบรนด์เนม บทความนี้จะลึกถึงนิยามของคำว่า “แบรนด์เนม” ผู้อ่านจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโลกแห่งการสร้างแบรนด์ ทั้งวิธีที่ แบรนด์ดัง ต่าง ๆ สร้างมูลค่าให้กับ กระเป๋าแบรนด์เนม รวมถึงไขข้อสงสัยที่ว่าทำไม กระเป๋าแบรนด์เนม ถึงมีราคาสูง ไม่มีวันตก

เกี่ยวกับผู้เขียน

ด้วยความหลงใหลในแฟชั่นและสินค้าแบรนด์เนม ทางเราจึงขอพาทุกคนมาสำรวจเกี่ยวกับเรื่องราวของ แบรนด์เนม เจาะลึกถึงการพัฒนาแบรนด์และกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่ทางแบรนด์ใช้ในการมัดใจผู้คน มาไขปริศนาเบื้องหลังชื่อแบรนด์ สำรวจแง่ในมุมต่าง ๆ ที่การสร้างชื่อแบรนด์นั้นไม่ใช่แค่ป้ายกำกับ แต่เป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังที่น่าจดจำ

สินค้า “แบรนด์เนม” จำเป็นต้องโด่งดังหรือไม่ถึงจะเรียกว่าแบรนด์เนม?

หลายคนคงจะทราบกันมาแล้วบ้างว่าอะไรคือสินค้า แบรนด์เนม ตัวอย่าง กระเป๋าหลุยส์ วิตตอง, กระเป๋าDior หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่มาจากแบรนด์ดังสุดหรู และก็คงจะเข้าใจว่าสินค้าที่มีชื่อแบรนด์อันเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางนั้น เรียกได้ว่าเป็นสินค้าแบรนด์เนม  แต่หลาย ๆ คนก็คงจะเกิดคำถามอยู่ในใจว่า แล้วสินค้าบางอย่างที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังล่ะ? จะเรียกว่าเป็นสินค้าแบรนด์เนมได้ไหม? วันนี้ทางเรา Hi-Endbrands จะพาทุกคนมาหาคำตอบกัน

ต้องบอกก่อนว่า ชื่อแบรนด์ คือชื่อเฉพาะหรือตัวระบุที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือบริษัทเฉพาะเจาะจงแตกต่างจากผู้อื่นในตลาด “ชื่อแบรนด์หรือชื่อทางการค้าคือชื่อ (โดยปกติจะเป็นคำนามที่เหมาะสม) ที่ผู้ผลิตหรือองค์กรใช้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการเฉพาะ” [1] มันคือองค์ประกอบสำคัญของการสร้างแบรนด์และการตลาด เนื่องจากช่วยสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างและสร้างการรับรู้ในหมู่ผู้บริโภค ชื่อแบรนด์อาจเป็นคำ การผสมผสานระหว่างคำ ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงแบรนด์และคุณลักษณะของแบรนด์ก็ได้

ชื่อแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ ควรเป็นที่จดจำ ออกเสียงง่าย และสะท้อนถึงคุณค่าและบุคลิกลักษณะของแบรนด์ ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของผู้บริโภค ทำให้รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นและติดหู สร้างความภักดีต่อแบรนด์ และมีส่วนช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในที่สุด ตัวอย่างชื่อแบรนด์ที่รู้จักกันดี โดยมีชื่อเรียกที่จดจำง่าย ได้แก่ Apple, Coca-Cola, Google และ Nike

สินค้าแบรนด์เนมไม่จำเป็นต้องเป็นที่รู้จักหรือได้รับความนิยมในวงกว้างจึงจะถือเป็นสินค้า “แบรนด์เนม” แม้ว่าแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมมักจะมีความได้เปรียบในแง่ของการยอมรับและความไว้วางใจของผู้บริโภค แต่แบรนด์ที่มีขนาดเล็กกว่าหรือเฉพาะกลุ่มก็อาจถือเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมได้เช่นกัน

ชื่อแบรนด์โดยปกติแล้วคือชื่อหรือสัญลักษณ์ใด ๆ ที่ระบุถึงผลิตภัณฑ์ บริการ หรือบริษัทนั้น ๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างอัตลักษณ์ที่แตกต่าง ซึ่งสามารถใช้ได้กับทั้งแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกและแบรนด์ขนาดเล็ก ผู้บริโยคบางรายอาจจะชอบมองหาผลิตภัณฑ์สิ่งของที่มีเอกลักษณ์หรือเฉพาะกลุ่ม และเต็มใจที่จะลองใช้แบรนด์ที่อาจไม่จำเป็นต้องเป็นที่รู้จักในวงกว้างก็ได้

อย่างไรก็ตาม การทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับ แบรนด์เนม แบรนด์ขนาดเล็กหรือแบรนด์ใหม่ ๆ อาจต้องลงทุนด้านการตลาดและการส่งเสริมการขายเพื่อสร้างตัวเองในตลาดและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค เมื่อเวลาผ่านไป หาก แบรนด์แฟชั่น ส่งมอบคุณภาพสินค้าที่ดีอย่างสม่ำเสมอและตรงตามความคาดหวังของลูกค้า แบรนด์แฟชั่น นั้นก็มีโอกาสที่จะได้รับการยอมรับในวงกว้างและได้รับความนิยมมากขึ้น

แบรนด์เนม สร้างมูลค่าให้ กระเป๋าแบรนด์เนม ได้อย่างไร?

จากในอดีตจนถึงปัจจุบัน เราจะเห็นว่า แบรนด์แฟชั่น ที่มีชื่อเสียงต่างใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของตน โดยเริ่มจากการพัฒนาภาพลักษณ์และเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่มักจะโดดเด่นกว่าใครและแตกต่างออกไป สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างโลโก้ให้เป็นที่รู้จัก การสร้างสุนทรียภาพของการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และการถ่ายทอดข้อความของแบรนด์ที่เหนียวแน่น การทำเช่นนี้ จะส่งเสริมความสัมพันธ์ทางอารมณ์ให้กับผู้บริโภค ซึ่งมีส่วนในการรับรู้คุณค่าของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ

นอกจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่น่าดึงดูดแล้ว การเน้นไปที่คุณภาพและงานฝีมือยังเป็นจุดเด่นของ แบรนด์แฟชั่น ที่มีชื่อเสียงมากมาย การใช้วัสดุคุณภาพสูงและความใส่ใจในรายละเอียดอย่างพิถีพิถันไม่เพียงแต่รับประกันความทนทานของผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า แต่ยังช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงคุณค่าโดยรวมอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์หรูที่ให้ความสำคัญกับงานฝีมืออันยอดเยี่ยมที่นำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้น

ความพิเศษเฉพาะตัวของแต่ละแบรนด์ต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความต้องการสินค้าแฟชั่น กระเป๋าแบรนด์เนม รุ่นลิมิเต็ด และรุ่นพิเศษ ทำให้เกิดความรู้สึกถึงความหายาก และเข้าถึงยาก ทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการมากขึ้น ความหายากนี้ มักทำให้ผู้คนรับรู้ถึงมูลค่าที่สูงขึ้นของสินค้าพิเศษเฉพาะเหล่านี้ ว่าเป็นสินค้าราคาระดับพรีเมียม

การร่วมมือของเซเลบริตี้และบุคคลที่มีชื่อเสียงที่เข้ามาช่วย แบรนด์แฟชั่น โปรโมท ยิ่งสร้างอิทธิพลของ แบรนด์ดัง เป็นการขยายการเข้าถึงมากขึ้น  ทางแบรนด์ก็จะมีการปรับโฉมให้สอดคล้องกับบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น เช่น ร่วมมือกับกับดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงแบรนด์กับไลฟ์สไตล์หรือบุคลิกเฉพาะให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นขึ้นไป สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของพวกเขา และจะเพิ่มการรับรู้ในหมู่ของผู้ซื้อเช่นกัน

การโฆษณาทางการตลาดก็นับว่าเป็นเครื่องมือในการสร้างสถานะให้กับแบรนด์อย่างแข็งแกร่ง แบรนด์แฟชั่น ต้องลงทุนอย่างมากในแคมเปญผ่านสื่อและแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงโซเชียลมีเดีย เพื่อเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างและเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ แคมเปญเหล่านี้มีส่วนช่วยในการเล่าเรื่องโดยรวมเกี่ยวกับแบรนด์และยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

การค้าปลีกเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการกำหนดมูลค่าของผลิตภัณฑ์แฟชั่น แบรนด์หรูมักจะสร้างร้านค้าปลีกที่หรูหราและได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างรอบคอบ ซึ่งนอกเหนือไปจากแค่ การเดินเข้าร้านแล้วซื้อ แต่ยังมีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าอย่างดีเยี่ยม โดยมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดื่มด่ำและพิเศษเฉพาะแก่ลูกค้า

ในแง่มุมของมรดกตกทอดและประวัติศาสตร์ของแบรนด์ เราจะเห็นว่า แบรนด์ดัง หลายแบรนด์มักจะนำมาใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความน่าดึงดูด การกล่าวถึงต้นกำเนิด ค่านิยม และวิวัฒนาการของแบรนด์มีส่วนช่วยในการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ น่าดึงดูดซึ่งสะท้อนกับผู้บริโภค ส่งเสริมความสัมพันธ์และความภักดีที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ดีไซน์ของสินค้าก็นับว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับ แบรนด์แฟชั่น ที่ต้องการรักษารากฐานของลูกค้า ยิ่งแบรนด์ไหนที่มีสไตล์และมีเอกลักษณ์แหวกแนว จะยิ่งสร้างความคาดหวังและความตื่นเต้นในหมู่ผู้คน และจะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์มากขึ้น

ทำไม กระเป๋าแบรนด์เนม ถึงราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ?

ในการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ต้นทุนที่สูงนั้นเกิดจากปัจจัยหลายประการ ทำให้เป็นการลงทุนที่ต้องมีราคาแพง เหตุผลสำคัญประการหนึ่งคือ สินค้าเหล่านี้ต้องใช้ฝีมือที่พิถีพิถัน แบรนด์ต่าง ๆ เช่น Hermès และ Chanel ทุ่มเทเวลาและความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์กระเป๋าแต่ละใบ ตัวอย่างเช่น กระเป๋า Hermès Birkin อันเป็นเอกลักษณ์ต้องใช้เวลาถึง 48 ชั่วโมงในงานฝีมือโดยช่างฝีมือผู้มีทักษะซึ่งผ่านการฝึกฝนมาหลายปี

วัสดุที่ใช้ในการประดิษฐ์ กระเป๋าแบรนด์เนม มีส่วนทำให้กระเป๋ากลายเป็นสินค้ามีคุณภาพระดับพรีเมียม แบรนด์ดัง  ๆ มักจะควบคุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ตั้งแต่การเป็นเจ้าของฟาร์มสำหรับการผลิตเครื่องหนังไปจนถึงการแปรรูปวัสดุอย่างพิถีพิถัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่ง เช่น ทองคำ เหล็ก แพลเลเดียม หรือเพชร ล้วนเพิ่มค่าใช้จ่ายในการสร้างสรรค์สินค้าฟุ่มเฟือยเหล่านี้

ต้นทุนโลจิสติกส์เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อราคากระเป๋าแบรนด์เนม กระบวนการขนส่งจากเวิร์คช็อปไปยังร้านค้าระดับไฮเอนด์ ต้องมีการแพค บรรจุภัณฑ์อย่างระมัดระวัง เพื่อรักษารูปทรงและคุณภาพของกระเป๋า ในส่วนของภาษีและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ก็ยังส่งผลต่อต้นทุนโดยรวมอีกด้วย

ด้วยเหตุที่ต้นทุนยังสูงแล้ว แบรนด์ต่าง ๆ ยังจัดสรรรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายกระเป๋าเพื่อเป็นทุนในการทำการตลาด ซึ่งรวมถึงการจัดแฟชั่นโชว์ระดับโลก กิจกรรมในร้านค้าสำหรับลูกค้าที่มีการใช้จ่ายสูงสุด ปกนิตยสาร โฆษณาทางทีวี การผูกมิตรกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ และการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดีย งบประมาณการตลาดเหล่านี้ต้องใช้จำนวนมาก และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการกระเป๋าแบรนด์เนมมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

แล้วทำไม กระเป๋าแบรนด์เนม ถึงต้องขึ้นตลอดเวลา?

ราคาของกระเป๋าแบรนด์เนมมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ นอกเหนือจากอัตราเงินเฟ้อและค่าจ้างที่สูงขึ้นของผู้คน แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีบทบาท แต่แบรนด์ต่างๆ มักจะขึ้นราคาด้วยเหตุผลเชิงกลยุทธ์ จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้แบรนด์หรูมีรายได้ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่นิยมซื้อสินค้าระดับไฮเอนด์ในต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ต่าง ๆ จึงพยายามชดเชยการสูญเสียนี้ด้วยการเพิ่มราคา โดยเฉพาะในภูมิภาคเช่นจีนซึ่งราคาสูงขึ้นอยู่แล้ว

ให้เรามาดูกลยุทธ์การกำหนดราคาของชาแนลเป็นตัวอย่าง ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://wwd.com/ ระบุว่า ราคาของ Classic Medium Flap Bag เพิ่มขึ้นจากประมาณ 6,800 ดอลลาร์ในต้นปี 2021 เป็น 8,800 ดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ในสหรัฐอเมริกา ชาแนลอ้างถึงอัตราเงินเฟ้อ จึงมีการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการผลิตและมีความปรารถนาที่จะปรับราคาให้สอดคล้องกันทั่วโลกเป็นเหตุผลในการเพิ่มขึ้นของราคา กระเป๋าแบรนด์เนม

นอกจากนี้ แบรนด์หรูเช่น Hermès, Louis Vuitton และ Chanel จงใจจำกัดปริมาณผลิตภัณฑ์ของตนเพื่อสร้างความรู้สึกถึงความลิมิตเตทและความพิเศษเฉพาะตัว ด้วยการรักษาความรู้สึกถึงความหายาก แบรนด์ดัง ต่าง ๆ ยังกระตุ้นให้ลูกค้าเข้าแถว เข้าร่วมรายการรอ และทำเกิดความรู้สึกอยากรีบซื้อทันที เพราะกลัวจะของหมด แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม จะการไม่มีช่วง End of Season Sales เป็นการตอกย้ำถึงราคาสินค้าที่ไม่มีวันลดลง

นอกจากนี้ แบรนด์ต่างๆ กำลังใช้ระบบโควต้า โดยจำกัดจำนวนถุงที่ลูกค้าสามารถซื้อได้ต่อปี ตัวอย่างเช่น Hermès อาจกำหนดให้ลูกค้าใหม่ต้องซื้อสินค้าอื่น ๆ ก่อนจึงจะอนุญาตให้ซื้อ Birkin อันเป็นเจ้าข้าวเจ้าของได้ กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความพิเศษเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มั่นใจว่าลูกค้าลงทุนอย่างมีนัยสำคัญก่อนที่จะซื้อสินค้าที่เป็นที่ต้องการบางรายการ

บทสรุป

ชื่อแบรนด์ ทำหน้าที่เป็นตัวระบุถึงความโดดเด่นสำหรับผลิตภัณฑ์ บริการ หรือบริษัท ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดเอกลักษณ์และการรับรู้ที่เป็นเอกลักษณ์ ตรงกันข้ามกับความเข้าใจผิดที่ว่าผลิตภัณฑ์ แบรนด์เนม ทั้งหมดจะต้องเป็นที่รู้จักในวงกว้าง คำนี้ครอบคลุมทั้ง แบรนด์ดัง และแบรนด์เป็นที่รู้จักน้อย

ความนิยมของ แบรนด์ดัง มักเป็นผลมาจากความพยายามทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ รวมถึงการพัฒนาภาพลักษณ์ของแบรนด์จนกลายเป็นที่ค่อนข้างน่าจดจำของผู้คน โดยมุ่งไปที่คุณภาพและงานฝีมือ การสร้างออร่าที่พิเศษเฉพาะ การร่วมมือกับคนดัง สร้างแคมเปญการตลาดและการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ บริการในร้านค้าปลีก แม้ว่าบางแบรนด์จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางผ่านกลยุทธ์เหล่านี้ แต่แบรนด์ที่มีขนาดเล็กหรือเฉพาะกลุ่มก็อาจถือเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมได้เช่นกัน

อ้างอิง

1. Reference list: Richard Nordquist. (2019). What is a Brand Name?: https://www.thoughtco.com/what-is-brand-name-1689036 (Accessed: 8 January 2024). [1]

2. https://wwd.com/

ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เว็บดูบอลสดฟรี

บทความอื่น ๆ ที่แนะนำ >>