วิธีเก็บรักษากระเป๋า ให้อยู่นาน สวยใหม่ ไปนาน ๆ สำหรับกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรู
วิธีเก็บรักษากระเป๋า แม้ กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง จะเป็นสิ่งของสำหรับที่ใช้ภายนอก ไม่ได้สวมใส่ เช่น รองเท้า เสื้อผ้า ที่ซื้อแบบมามือสองก็ตาม แต่เราก็ควรมีการนำมาทำความสะอาด ถึงแม้ว่าแม้ค้าที่นำมาขายเขาจะทำความสะอาดมาแล้ว แต่อาจจะมีกลิ่นที่เราไม่ชอบ กลื่นไม่พึงประสงค์หลงเหลืออยู่บ้าง เราก็สามารถจำกัดกลิ่นนั้นได้
หากเป็น กระเป๋ามือสอง แต่เป็นประเภทหนังแท้ เราควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ แล้วเช็ดให้ทั่ว จากนั้นจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกที เพื่อไม่ให้เกิดการชื้น และควรหลีกเลี่ยงการนำกระเป๋าไปไว้ในที่อับชื้น เพราะจะทำให้สึกหรอได้ง่าย หรืออาจจะใส่ที่กันชื้นไว้ในกระเป๋าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการอับชื้นขึ้น หากต้องการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ก็สามารถใช้น้ำยาเคลือบหนังแล้วทาบนกระเป๋าหนังก็ได้
กระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดที่ซื้อมานั้น หากจะใช้ให้คุ้มกับราคา เราก็ต้องรู้จักวิธีดูแลรักษากันหน่อย สำหรับใครที่เป็นคนรักกระเป๋า บอกได้เลยว่าตอนนี้คุณมาถูกทางแล้ว ถ้าอยากให้กระเป๋าสุดแพงของเราอยู่สวย ๆ ไปนาน ๆ ไม่มอมแมมก่อนวัยอันควร ในวันนี้เราก็มีวิธีการดูแลรักษา กระเป๋าแบรนด์เนม ที่ซื้อมาในราคาสูงมาฝากกัน จะมีวิธีการจัดเก็บดูแลรักษาอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลย
7 วิธีเก็บรักษากระเป๋าให้ใหม่อยู่เสมอและอยู่กับเราไปนาน ๆ
1. เก็บให้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก
ดูจากอากาศประเทศไทย ถ้าเราก็บกระเป๋าไว้ในที่อบอ้าวหรือร้อนเกินไป อากาศถ่ายเทไม่สะดวกแล้ว ก็เตรียมบอกลากระเป๋าใบโปรดที่ซื้อมาได้เลย เพราะถ้าเก็บไว้ในที่ร้อนอบอ้าวก็ยิ่งเร่งให้กระเป๋ากรอบได้เร็วขึ้น
ดังนั้นวิธีการแก้ปัญา ควรหาสถานที่เก็บกระเป๋าให้อยู่ในจุดที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่โดดแดดแรง หรือในตู้เสื้อผ้าที่ร้อนอบ จะตั้งเอาไว้บนชั้นวางหรือในห้องที่มีแอร์ให้ความเย็นก็ช่วยได้เยอะ
2. วางให้เว้นระยะห่างจากกัน
ไม่ควรอย่าวางชิดกันจนมากเกินไป เนื่องจากกระเป๋าแบรนด์เนมแต่ละใบมีวัสดุที่เอามาทำกระเป๋าต่างกัน และไม่เพียงเท่านั้น สีที่ใช้ทำกระเป๋าอาจจะตกใส่กันจนสีเพี้ยนก็เป็นได้ ดังนั้นเราขึงควรวางเว้นระยะห่างกัน โดยตั้งให้ห่างกันหรือวางโดยมีชั้นวางกั้นก็ช่วยให้กระเป๋ามีช่องว่างและระยะห่างที่ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมถึงป้องกันสีกระเป๋าตกใส่กันได้อีกด้วย
3. หาผ้ามาพันตรงหูกระเป๋า
หูกระเป๋า เป็นจุดที่มือมนุษย์สัมผัสโดนบ่อย แต่ด้วยความที่มือของเราอาจจะมีโลชั่นหรือครีมต่าง ๆ อาจทำให้สีหลุดดูซีดได้ ดังนั้น เราที่รักกระเป๋าใบโปรดควรหาผ้านิ่ม ๆ ลายสวย ๆ มาพันบริเวณหูกระเป๋า และยังเป็นแฟชั่นที่เพิ่มความน่าสนใจให้กระเป๋าอีกด้วย ไม่พอยังช่วยให้สีของกระเป๋าไม่หลุดจนซีดได้ง่ายออีกด้วย
4. หากระดาษหรือเศษผ้าใส่กระเป๋าเพื่อรักษาทรง
หากวางกระเป๋าเอาไว้เฉย ๆ ก็อาจทำให้กระเป๋าเสียรูปทรงและจะเกิดรอยขึ้นได้ ดังนั้นเราควรหาของนิ่ม ๆ อย่างเช่น กระดาษหรือผ้านิ่ม ๆ มายัดไว้ในกระเป๋า เพื่อรักษารูปทรงเอาไว้เวลาไม่ได้ใช้งาน เพราะถ้าหากตั้งหรือวาง ๆ ไว้จะทำให้กระเป๋าไม่เสียทรง จนเกิดรอยพับหรือรอบยับจนหนังกระเป๋าเสียหาย ใครที่รักกระเป๋าแบรนด์เนม ต้องไม่ลืมเรื่องนี้
5. ทำความสะอาดให้ตรงกับสภาพของหนังกระเป๋า
กระเป๋าแบรนด์เนม แต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น มีการผลิตจากหนังหรือวัสดุที่ไม่เหมือนกัน ข้อนี้ทุกคนทราบกันดี ทำให้การดูแลทำความสะอาดที่เหมาะสมจะแตกต่างกันออกไป และจะใช้วิธีเดียวกันไม่ได้ ควรศึกษากระเป๋ากันก่อนว่าทำจากวัสดุอะไร แล้วมาดูวิธีการทำความสะอาดที่เหมาะสมกัน
กระเป๋าหนังแท้ ต้องระวังเรื่องความชื้นและความร้อนน ให้ใช้น้ำยาเช็ดกระเป๋าเช็ดให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดเอาสิ่งสกปรกออก ควรทำทันทีที่เลิกใช้งาน เพื่อป้องกันคราบติดแน่น แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งที่สุด ใส่ถุงดูดความชื้น ไม่นำไปตากแดดนาน ๆ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้กระเป๋าหนังแท้ใช้ได้อีกนาน
กระเป๋าหนังกลับ มีข้อควรต้องระวังเรื่องการเปียกและรอยด่าง ให้ใช้น้ำยาเช็ดกระเป๋า รีบเช็ดตามด้วยผ้าแห้ง และควรใช้น้ำยาเคลือบหนังลงบนกระเป๋าเพื่อป้องกันรอยที่อาจจะเกิดได้ และเช่นเดียวกับกระเป๋าหนังแท้ ก็คืออย่าลืมเช็ดให้แห้งที่สุด และไม่นำไปตากแดดนาน ๆ
กระเป๋าหนังเทียม แม้ดูแลง่ายกว่ากระเป๋าหนังแท้ แต่ห้ามนำไปแช่น้ำซักทั้งใบ เวลาเจอคราบสกปรกให้ใช้ผ้าหมาดเช็ดให้สะอาดก่อนนำไปตากแดดอ่อน ๆ ไม่ตากแดดแรงเพื่อรักษาสภาพหนังกระเป๋าเอาไว้ และไม่ควรใช้น้ำยาเคลือบหนังกับกระเป๋าหนังเทียมอีกด้วย
กระเป๋าผ้า การทำความสะอาดด้วยการซักอาจจะทำให้กระเป๋าเป็นขุยแล้วกระเป๋าอาจจะเสียไปเลย ดังนั้นจึงควรมีลูกกลิ้งแบบกาวที่เอาไว้ถูเพื่อทำความสะอาด จะช่วยรักษากระเป๋าผ้าให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ได้มากกว่า
กระเป๋าหนังแก้ว จะเป็นกระเป๋าที่มีความวาวเงางาม แต่ก็ดูดติดสีอื่นได้ง่ายมาก เวลาทำความสะอาด สามารถเริ่มได้จากน้ำเปล่า หากน้ำเปล่าไม่ได้ผล ลองน้ำยาเช็ดกระจกแล้วเช็ดออกด้วยทิชชู่ก็จะทำให้คราบออกได้ง่าย และอย่าลืมเช็ดให้แห้งเก้อนจัดเก็บ
6. เก็บใส่ถุงกระเป๋าเอาไว้ เวลาไม่ได้ใช้
หลังจากทำความสะอาดเรียบร้อย การเก็บรักษากระเป๋าก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ปกติเวลาซื้อกระเป๋า แต่ละแบรนด์ก็มักจะมีกระเป๋าที่ใช้สำหรับหุ้มกระเป๋ามาอยู่แล้ว ให้ใช้ถุงนั้นหุ้มก่อนตั้งเก็บ ก็จะช่วยรักษาสภาพหนังของกระเป๋าได้ดี หากถุงหาย เราก็สามารถใช้ปลอกหมอนในการเก็บกระเป๋าได้เช่นเดียวกัน
7. ส่งทำสปากระเป๋า เพื่อความมั่นใจ
การส่งทำสปากระเป๋า ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยรักษากระเป๋าให้อยู่ได้นานขึ้น โดยร้านสปากระเป๋าแต่ละร้านจะสามารถทำความสะอาดได้ถูกวิธีและยังสามารถซ่อมแซมกระเป๋าแบรนด์แนมใบโปรดของเราได้ หากว่าเกิดการชำรุดขึ้นกับกระเป๋า เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้กระเป๋าของสาว ๆ อยู่ได้นานขึ้นแล้ว
ข้อควรระวังในการใช้กระเป๋าหนังมีอะไรบ้าง
การใช้กระเป๋าหนัง ก็มีข้อควรระวังในการใช้งานมากมาย ซึ่งข้อควรระวังที่เราได้หยิบยกมานี้ เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวที่อยากจะนำมาแบ่งปัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เรามักจะพบเจอในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเรามาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้างที่เราควรระวัง
1. ระวังอย่าให้มือเลอะตอนถือกระเป๋า
ให้ระวังมือของคุณ อย่าให้มีของเหลวชนิดต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้กระเป๋าเลอะและสกปรกได้ เช่น หมึกจากปากกา, ฝุ่นหรือดิน, น้ำมัน, สีชนิดต่าง ๆ เนื่องจากสิ่งพวกนี้อาจจะทำให้กระเป๋าเลอะไปด้วย และทำความสะอาดได้อย่างลำบากจึงควรหลีกเลี่ยงและตรวจเชคทุกครั้งก่อนใช้งานว่ามือของคุณนั้นเลอะหรือไม่
2. ระวังของมีคมทุกชนิด
ข้อมีหลายคนพลาดมาเยอะแล้ว อุตส่าห์เก็บออมเงินซื้อกระเป๋ามาตั้งนาน สุดท้ายมาพลาดโดนมีดหรือปลายกรรไกรข่วนจนทำให้เป็นรอย ซึ่งหากโดนเป็นลอยลึก ๆ จะทำให้มีตำหนิที่ไม่น่ามองเลยทีเดียว
เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะมีความเชื่อผิด ๆ ว่า ถ้าหากเราใช้กระเป๋าที่ทำจากหนังแท้ดี ๆ มีความทนทานสูงอย่าง กระเป๋าหนังวัว, กระเป๋าหนังควาย, กระเป๋าหนังจระเข้, กระเป๋าหนังปลากระเบน ไม่ต้องกลัวเรื่องรอยขีดข่วนที่มาจากของมีคม
กล้าพูดได้เลยว่าหนังทุกชนิด มีผิวที่ไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิดไว้ ตัวอย่างง่าย ๆ ที่เห็นได้ชัดคือขอบโต๊ะที่เป็นมุมเหลี่ยม ๆ หากเราเดินไปสะกิดโดนก็เป็นรอยได้แล้ว แล้วนับประสาอะไรกับมีดหรือปลายกรรไกรที่แหลมและคมกว่า
3. ระวังอย่าให้หนังแท้เปียกน้ำนาน ๆ
แม้ว่ากระเป๋าหนังแท้จะกันน้ำได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากใช้สารเคมีเคลือบบนชั้นของหนังไว้ ซึ่งสารเคมีพวกนี้จะถูกเคลือบมาจากโรงงานฟอกหนัง แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังแท้ทุกชนิดจะมีการเคลือบ เพราะหนังบางชนิดจะไม่นิยมเคลือบสารกันน้ำพวกนี้
เนื่องจากต้องการให้คงสภาพความสวยงามของลวดลายหนังสัตว์ให้ชัดเจน หนังประเภทนี้ก็เช่น หนังฟอกฝาด, หนังชามัวร์, หนังอัดลายช้าง, หนังนูบัค ซึ่งจะไม่นิยมเคลือบสารกันน้ำ
ถึงแม้ว่าน้ำจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อสภาพพื้นผิวของหนัง แต่น้ำจะทำให้ชั้นของหนัง มีความนิ่มและอ่อนตัวลงได้ หากแช่น้ำนาน ๆ หรือเอาไปซัก ก็อาจจะทำให้กระเป๋า มีรูปทรงที่บิดเบี้ยวไปจากเดิมไปเลย
เป็นอีกสาเหตุหนึ่งก็คือ หากกระเป๋าของเราเปียกน้ำ มันจะมีความเสี่ยง ที่จะเกิดเชื้อราขึ้นในกระเป๋าได้ มันจะไม่เห็นผลในทันทีแต่มันจะแอบไปขึ้นตามซอกเล็ก ๆ ซึ่งหากขึ้นราแล้วจะทำความสะอาดยาก อีกทั้งจะทำให้กระเป๋าของเรามีกลิ่นเหม็นอีกด้วย
4. ระวังเรื่องการทำความสะอาดด้วยสารเคมี
หนังแต่ละชนิดมีการดูแลรักษาที่ไม่เหมือนกัน เพราะการฟอกหนังแต่ละชนิดเป็นสูตรเฉพาะตัวของโรงฟอกหนัง ดังนั้นการทำความสะอาดด้วยสารเคมีบางตัว โดยเฉพาะครีมที่มีฤทธิ์กัดกร่อน หากใช้มากเกินไป หรือถูแรงเกินไป สีกระเป๋าของเราอาจจะด่างได้
ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีจริง ๆ ควรทดลองเช็ดในบริเวณจุดที่มองไม่ค่อยเห็นก่อน เห็นบริเวณก้นกระเป๋าหรือมุมอับสายตา ว่าเช็ดออกมาแล้วสีด่างไหม แต่แนะนำว่าเราควรปรึกษาร้านกระเป๋าที่ซื้อมาก่อนว่าใช้น้ำยาตัวนี้ได้หรือไม่
5. ระวังเรื่องแสงแดดและความร้อน
แม้ว่าหนังสัตว์จะทนต่อความร้อนได้สูงมากก็ตาม แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนมาก ๆ อย่างประเทศไทย และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นในทุก ๆ ปี ทำให้แสงแดดแรงขึ้นมาก แสงแดดจะมีผลต่อสภาพของกระเป๋าเป็นอย่างมาก อย่างที่เคยกล่าวไว้ โดยจะมีผลทำให้สารเคมีที่เคลือบอยู่บนผิวของหนัง ทำให้เสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ทำให้สีกระเป๋าที่เคยเงางาม ก็จะซีดจางลงไป ทำให้สีกระเป๋าดูไม่สดใสเหมือนเก่า หรือเรียกว่าดูเก่าลง
กระเป๋าบางใบหากทำจากหนังที่ไม่ค่อยจะมีคุณภาพ หรือหนังเกรดต่ำ ที่ไม่มีสารเคลือบผิว หากถูกแดดนาน ๆ ก็อาจจะมีผลทำให้หนังแห้งและกรอบ ทำให้ความยืดหยุ่นในตัวของกระเป๋าหายไป ที่สำคัญที่สุดอะไหล่ที่อยู่บนตัวกระเป๋า จะเริ่มมีสีที่เปลี่ยนไปจากเดิมอีกด้ว
แหล่งอ้างอิงข้อมูล : แทงบอล
ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เว็บดูบอลสดฟรี
แบรนด์อื่นๆ ที่แนะนำ >> วิธีการเลือกกระเป๋า