เจ้าแม่แบรนด์เนม พบเจ้าของร้านแบรนด์เนมที่ประสบความสำเร็จด้วยกลยุทธ์สุดปัง

เจ้าแม่แบรนด์เนม เจ้าของร้านแบรนด์เนมสุดปัง ด้วยเนคนิคกลยุทธ์สุดปัง

เจ้าแม่แบรนด์เนม อย่างที่ทุกคนทราบกันดีกว่า ในช่วงนี้สถานการณ์โควิดกำลังมาแรง และไม่มีท่าทีว่าจะลดละความรุนแรงลงได้เลย ทำให้หลากหลายวงการ ไม่ว่าจะธุรกิจไหน ๆ ก็พากันซบเซากันถ้วนหน้า แบบแทบต้องเอาเท้ากายหน้าผากกันบ้างล่ะ แต่สำหรับธุรกิจแบรนด์เนม ของใช้ฟุ่มเฟื่อนที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ กลับสวนกระแสซะงั้น แถมยังมีความคึกคักกันมา ตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี เรียกได้ว่ายังเป็นธุรกิจที่สร้างรอยยิ้มให้กับเจ้าของไอเท็มสุดหรูเหล่านั้น

รวมไปถึงบรรดาร้านแบรนเนมมือสองต่าง ๆ ที่ยังคงมีมากมายในโลกออนไลน์ แม้ธุรกิจแบบแบรนด์เนมมือสองจะรุ่งโรจน์ จนมีคู่แข่งเข้ามาในสนามแข่งขันมากมาย ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ในทุกมุมของโลกโซเชียล แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะอยู่รอดเสมอไป การทำธุรกิจแบรนด์เนมนั้น ต้องสร้างให้มีชื่อแบบติดลมบน จนกลายเป็นที่รู้จัก และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า เจ้าของแต่ละคนต่างต้องสร้างความเชื่อถือ และสร้างการขายที่มัดใจแฟนคลับอยู่เสมอ

ซึ่งในวันนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักแบบใกล้ชิด กับเจ้าแม่ เจ้าของร้านแบรนด์นมสุดฮิตที่กำลังมาแรงในโลกออนไลน์ ได้แก่ มาดามพัดซัง-พลอยนภัส ศรีสำราญโชค และ แจน-เพียงกานต์ อัจฉราพิทักษ์ ซึ่งจะมีกลยุทธ์ในการทำธุรกิจอย่างไรและมีที่มาที่ไปอย่างไรเชิญรับชมได้เลยจ่ะ

2 เจ้าแม่แบรนด์เนม เจ้าของเบื้องหลังร้านแบรนด์เนมที่กำลังโด่งดังอย่างสุด ๆ

มาดามพัดซัง-พลอยนภัส ศรีสำราญโชค

เจ้าของร้านแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ ชื่อดัง “มาดามพัดซัง-พลอยนภัส ศรีสำราญโชค” แห่ง Grease House ร้านแบรนด์เนมที่กำลังโด่งดังอย่างสุด ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับคนรักแบรนด์ระดับหรูอย่าง “แอร์เมส” Hermes แบรนด์ดังในใจของทุกคน ซึ่งมาดามพัดซังขายกระเป๋าในราคาเกือบครึ่งล้าน และสามารถทำได้เพียงไม่กี่นาทีจากการ Live สดเท่านั้น! ลีลาการขายไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนของเธอ สะกดผู้ชมให้ซื้ออย่างกับร่ายเวทมนตร์ไว้

มาดามพัดซัง เล่าถึงการทำงานของเธอว่า การขายของเธอมีหลายช่องทางการติดต่อ มีทั้งหน้าร้านให้เข้ามาเลือกชมสินค้า หรือไอจีของ greasehouse1 ซึ่งก็จะมีการไลฟ์สดขายกระเป๋ากันทุกวัน ตั้งแต่ช่วงเวลา สามทุ่ม ถึง เที่ยงคืน สินค้ามากกว่า 80-90 เปอร์เซ็น มักจะเป็น Second Hand แต่ก็มีของที่เป็นของใหม่ที่คนได้มาจากช็อป แล้วไม่ชอบสี ไม่ชอบขนาด จึงเอามาฝากขาย เป็นต้น หรือบางคนได้ของมาแล้วอยากทำกำไร Hermes ก็นับว่าเป็นกระเป๋าที่สามารถสร้างมูลค่าได้มากมาย

ในส่วนของการไลฟ์สุดของมาดามพัดนั้น จะเป็นในรูปแบบการประมูล โดยมีราคากลางตั้งไว้ การประมูลจะมีอยู่ 2 อย่าง คือ “ไส้แตก” ขาดทุน หรือ “เลยป้าย” ได้ราคาเกินคาด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ ว่ามีมากน้อยแค่ไหน คนที่เขามาประมูลก็ต้องลุ้นกันเอง บางครั้งราคาอาจจะลด 20-30% แต่ถ้าใบที่หายากมาก ๆ ก็อาจจะเอามาประมูลได้ราคาดีกว่ามาก

“แต่ละวันที่เราไลฟ์ขาย เหมือนเป็นคอมมูนิตี้หนึ่งที่ทุกคนเขารอเข้ามาดู เพราะสนุก เหมือนเขาได้มิตรภาพ ได้เพื่อนจากคนที่เขาไม่รู้จักกันเลย พอมาเข้ายัดบี้ ขยี้ราคาประมูลกัน มันก็สนุก นั่งดูแล้วลุ้นไปด้วย จากคุณเอ คุณบี คุณซี ไม่รู้จักกันเลย ก็มารู้จักในห้อง greasehouse มาทักทายกัน ทุกวันนี้สมาชิกเยอะมาก บางวันพัดก็จะให้ความรู้เกี่ยวกับกระเป๋า ซึ่งพัดจะเรียกลูกค้าว่า มหารานี มหาราชา พัดจะเป็นเหมือนเมียสุลต่าน ที่คอยหาของกำนัลให้เหล่ามหารานี มหาราชา ซึ่งมีเยอะมากในประเทศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มหารานีต่างประเทศก็มี สิงคโปร์กับเวียดนามค่ะ” มาดามพัดซัง กล่าว

มาดามพัดซัง เล่าว่า เธอเริ่มทำอาชีพนี้มา 10 ปีแล้ว เริ่มเพราะ มีหนี้สินจากธุรกิจร้านทำผม และร้านทำเล็บ แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนชอบของแบรนด์เนม และชอบสะสมนาฬิกาหรู

จึงเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้เห็นทางรอดของชีวิต กำเงินก้อนหนึ่งเดินทางไปแดนอุทิศอุทัย เพื่อซื้อของแบรนด์เนมมือสองมาขายทำกำไร และสร้างธุรกิจของตัวเองใหม่ จนถึงวันนี้ โดยวันนี้ grease house เปรียบเสมือนศูนย์กลาง ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนกระเป๋าแอร์เมส

“พัดมาจับแบรนด์แอร์เมส เมื่อประมาณ 6-7 ปี เมื่อก่อนขายพวกนาฬิกา เราเป็นตัวกลางระหว่างคนซื้อและคนมาฝากขาย ไม่จับแพะมาชนแกะ เราจะได้เปอร์เซ็นต์จากการขาย เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ถ้าเป็นหนังธรรมดา เราจะได้ประมาณสัก 3-5% ต่อมูลค่า แต่ถ้าเป็นหนังเอ็กโซติก ตัวเปอร์เซ็นต์จะค่อนข้างน้อย เพราะราคามันสูงมากๆ จะไม่ถึง 1% จากมูลค่า อาชีพนี้สร้างรายได้พอสมควร และทำให้เราสามารถต่อยอดทำธุรกิจอื่นต่อไปได้ จากคอนเนกชัน แต่ใช่ว่าใครจะทำธุรกิจนี้แล้วจะรวย ขึ้นอยู่กับความสามารถและความเชื่อมั่น ต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้ และความซื่อสัตย์ถึงยั่งยืน ความซื่อสัตย์สำคัญที่สุด เพราะเราต้องรับผิดชอบลูกค้า ไม่ใช่แค่วันนี้ขายแล้วจบกัน” มาดามพัดซังเอ่ยถึง หลักที่ทำให้เธอยืนหนึ่ง ในธุรกิจด้านนี้

 

แจน-เพียงกานต์ อัจฉราพิทักษ์

อีกหนึ่งเจ้าแม่ในวงการที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ “แจน-เพียงกานต์ อัจฉราพิทักษ์” เจ้าของร้านใน IG : gwensbn แม่บ้านฉายา bag.mores ที่จะทำการโอน จ่าย ขาย ฝาก ได้ครบทุกรูปแบบการขาย ด้วยการโพสต์ภาพของตัวเองคู่กับสินค้า พร้อมด้วยแคปชั่นบรรยายสนุกในแบบของเธอเอง ที่เมื่อทุกคนอ่านแล้วต้องอดยิ้มออกไม่ไม่ได้ “แจนแห่ง gwensbn” ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้น ของการเริ่มทำอาชีพนี้ว่า เมื่อก่อนเธอมีอาชีพเป็นแม่บ้าน หลังจากมีปัญหาครอบครัว ก็เลยต้องมองหาอาชีพที่สร้างรายได้ ในอดีตเธอเคยมีกระเป่าแบรนด์เนม และเคยเอาไปขาย สมัยก่อนยังมีแค่ร้านขายที่สยาม และหลังการบินไทย

หลังจากนั้นจึงคิดจะเอาแบรนด์เนมมาขายทางออนไลน์ ซึ่งแจนเริ่มทำเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ในสมัยนั้นธุรกิจประเภทนี้ยังไม่มีเยอะมาก ถึงแรก ๆ จะไม่ค่อยมีของ แต่ก็จะไปซื้อกระเป๋าที่สนามมาเพื่อขาย แล้วขอถ่ายรูปกระเป๋าใบอื่น โดยขอเจ้าของร้านว่าจะเอาไปโพสต์ช่วยขาย ซึ่งเข้าของร้านก็ให้ พอขายออกก็ได้เปอร์เซ็นนิดหน่อย เธอทำจามีคนไว้ใจ เริ่มเอาของมาฝากให้เธอขาย จนทุกวันนี้ เธอได้ย้ายจากคอนโดมิเนียม มาเป็นบ้าน เนื่องจากไม่มีที่จะเก็บกระเป๋า

“แรกๆการโพสต์ขายเป็นตัวเองเลย คือใช้คำพูดบ้านๆ เขาถึงกลุ่มคนง่าย ไม่มีภาษาสวยๆ ภาษา เซเลบ การขายใช้วิธีการเชื่อใจเพียงอย่างเดียว เรารู้แค่ว่าซื้อไปใช้ แมตช์กับชุดไหน ออกงานไหนได้บ้าง ราคานี้ควรซื้อไหม มีงบเท่าไหร่ เอาไปใช้ที่ต่างจังหวัด แบบไหนพอแล้ว เข้าถึงใจคน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่ม เป็นตัวเอง แจนไม่ถนัดขายไลฟ์สด ความถนัดแต่ละคนไม่เหมือนกัน แจนถนัดที่จะถ่ายแล้วเขียนแคปชัน เดี๋ยวลบ เดี๋ยวแก้ จนเกิดความมั่นใจ จึงโพสต์ หรือภาพไม่สวย เดี๋ยวไป edit ให้สวย แจนเหมาะกับแบบนี้ ไม่เหมาะกับการออกหน้าสด แจนเป็นแม่บ้าน ลูกค้าที่ซื้อของแจนจะเป็นต่างจังหวัดมากกว่าคนกรุง ไกลสุดที่ส่งของคือ นราธิวาส เชียงราย แม่ฮ่องสอน ที่ครองใจคนต่างจังหวัด แจนคิดว่าเพราะเราเข้าถึงเขา เราใช้ภาษาการขายที่โดนใจเขา เป็นกันเอง เราชวนเขาคุยมากกว่าขายกระเป๋าอีก แล้วถ้ารู้ใจกันแล้ว จะแนะนำเขาเลยว่า ถ้าของไม่เข้ากับพี่อย่าซื้อนะคะ เพราะรู้ว่าจะไม่จบ เพราะถ้าเขาไม่ประทับใจ เราจะเครียด เพราะรู้ว่าเขาจะต้องไปเร่หาที่ขายต่อ ดังนั้นอยากให้ซื้อไปให้จบ ลูกค้าแฮปปี้ แจนแฮปปี้ เลยทำงานง่ายค่ะ” คุณแจนแห่ง gwensbn เล่าถึงภาพการทำงานของเธอ

ในส่วนของการทำธุรกิจนี้ “คุณแจน” กล่าวว่า รายได้ดีมากจนเธอสามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย และโชคดีที่ไม่ปัญหากระเป๋าก็อป เพราะที่ร้านมีของให้เปรียบเทียบเยอะ ซึ่งถ้ามีลังเลไม่แน่ใจกับชิ้นใด ก็จะขอไม่รับเพราะของทุกชิ้นจะมีบันทึกเอาไว้หมด คนที่ซื้อของที่ร้านก็สามารถมาขายต่ออีกทีได้ ดังนั้นของทุกชิ้นต้องมั่นใจว่าแท้ ไม่มีปลอมอย่างแน่นอน

“การซื้อของในปัจจุบันน่ากลัว การขายของในไอจีนั้นอาศัยความไว้วางใจ ที่เราอยู่ได้นานจนวันนี้ เพราะเรามีตัวตน เราให้ลูกค้ามารับของ หรือมาส่งฝากขายที่บ้านเราเลย รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน เราต้องสร้างความยั่งยืนในอาชีพ ต้องซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่ยัดเหยียดการขายให้จบๆไป งานเราเป็นงานบริการ ต้องรู้ใจและจริงใจกับลูกค้าค่ะ” คุณแจน เจ้าแม่แบรนด์เนมมือสอง กล่าวถึงหลักในการยืนหยัดของเธอ ในการอยู่ในวงการค้าขายกระเป๋าแบรนด์เนม

แหล่งอ้างอิงข้อมูล :  ไทยรัฐ, แทงบอลยูโร

ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เกมออนไลน์

แบรนด์อื่นๆ ที่แนะนำ >> กระเป๋าแบรนด์เนม ราคาเอื้อมถึง