Demna Gvasalia ทำความรู้จัก ดีไซเนอร์รุ่นใหญ่เจ้าของไอเดียแสบแห่งBalenciaga
Demna Gvasalia ในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่า เทรนด์ของวงการแฟชั่นจะเป็นการจับมือกัน ระหว่างแบรนด์ลักซูรี่กับแบรนด์เครื่องกีฬา และแบรนด์กลุ่มแฟชั่นแนว Street Wear ทั้งหลาย เพื่อเป็นการลดวัยของฝ่ายแบรนด์ลักซูรี่ไม่ให้ดูแก่เข้าถึงยากจนเกินไป แน่นอนว่าก็เป็นการจับตลาดวัยรุ่นยุคใหม่ที่มีกำลังซื้ออีกด้วย โดยในช่วงนั้นเอง Balenciaga เป็นหนึ่งแบรนด์หรูที่ทั้งนำเทรนด์ดังกล่าวและปฏิวัติแบรนด์ไปด้วยในตัว
โดย Balenciagaเองก็ได้ดีไซเนอร์ที่มีไอเดียแสบ ๆ แบบไม่กลัวเสียงวิจารณ์ขึ้นมานำทิศทางของแบรนด์ ตัวอย่างเช่น การเอาถุงช้อปปิ้งธรรมดาที่มีอยู่ใน Ikea ห้างค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ดัง มาจับคู่กับเสื้อผ้าในแฟชั่นโชว์แล้วตั้งราคาสูงถึงหลักหมื่น หรือจะเป็นการนำเอารองเท้ามาทำให้ขาด ๆ วิ่น ๆ เพื่อสื่อถึงความหรูแต่ลุยทนทานแล้วก็ตั้งราคาหลักหมื่น แบบไม่แคร์หน้าใคร
ซึ่งเจ้าของไอเดียแปลก ๆ แสบ ๆ ไม่สนใจคำวิจารณ์ก็คือ Demna Gvasalia ดีไซเนอร์รุ่นใหญ่เจ้าของไอเดียแสบแห่งBalenciaga ดีไซเนอร์วัย 42 ปี ผู้ครองเก้าอี้ดีไซเนอร์ใหญ่ของBalenciaga ตั้งแต่ปี 2015 แน่นอนว่าเรื่องราวของเขาก็ค่อนข้างน่าสนใจไม่แพ้กับผลงานเลยทีเดียว เดมนา เกิดในจอร์เจียเมื่อปี 1981 ซึ่งในสมัยนั้นจอร์เจียยังเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตที่มีแต่สงครามไม่เว้นวัน ทำให้ทั้งครอบครัวต้องหนีลี้ภัยไปอาศัยอยู่เมืองอื่นตั้งแต่เขาอายุ 12 ปี
ตัวเดมนาเองก็เคยเห็นคนตายจากสงครามความขัดแย้งกับตาตัวเองมาแล้ว ช่วงวัยรุ่นเดมนาเข้าเรียนระดับปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยในประเทศ จากนั้นปี 2001 ทั้งครอบครัวพากันอพยพไปอยู่เยอรมนี ที่เยอรมนีนี้เอง ความสนใจในงานศิลปะที่มีอยู่เดิม และความหลงใหลในแฟชั่นก็เริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจของเดนมา และทำให้เขาไม่อยากนั่งโต๊ะทำงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ-การเงินแสนน่าเบื่อ
เขาจึงขวนขวายและย้ายไปอยู่เบลเยียมเพื่อเรียนรู้ด้านแฟชั่นที่สถาบันศิลปะชื่อดังอย่าง The Royal Academy of Fine Arts ในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม หลังจากเรียนจบปริญญาโทเขาก็เปลี่ยนไปทำงานในแวดวงแฟชั่นสมใจ กับ Maison Margiela แบรนด์ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความล้ำสมัย ต่อด้วย Louis Vuitton
ในยุคของดีไซเนอร์ Marc Jacobs และ Nicholas Ghesquiere ไปพร้อมกับปั้นแบรนด์ Vetements ของตัวเองที่ทำร่วมกับน้องชายขึ้นมา และการตัดเย็บชุดที่เหมือนจะไม่เข้ากันให้สะดุดตาขึ้นมาของ Vetements ไปเตะตา Balenciaga ที่อยากได้ดีไซเนอร์ใหม่มาแทน Alexander Wang อยู่พอดี
จากเด็กจอร์เจียที่อยู่ทามกลางสงครามกลายมาเป็นดีไซเนอร์แบรนด์ดัง
เดมนา กวาซาเลีย ถือกำเนิดในปี 1981 ในครอบครัวชาวจอร์เจียที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์ธอด็อกซ์อันเคร่งคัด ณ เมืองซูฮูมี ดินแดนติดชายฝั่งทะเลดำ ในปี 1989 การล่มสลายของม่านเหล็กของสหภาพโซเวียต นำพาสุนทรียศาสตร์รูปแบบอื่นๆ จากฝั่งตะวันตกมาสู่เด็กน้อยกวาซาเลียวัย 8 ขวบ การไหลบ่าของวัฒนธรรมป็อป ดนตรี โคคาโคล่า เสื้อผ้า และนิตยสาร Vogue ทำให้เขาเริ่มสนใจโลกของแฟชั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
แต่แล้วไม่นานหลังจากนั้น เมื่อกวาซาเลียมีอายุได้ 10 ขวบ สงครามกลางเมืองก็ปะทุขึ้น เขา น้องชาย แม่ และยายต้องหลบหนีผ่านเทือกเขาคอเคซัสอันสูงชันและซับซ้อนด้วยเท้า ต้องขายปืน AK-47 อาวุธชิ้นเดียวที่ใช้ป้องกันตัว เพื่อหาเงินมาซื้อม้าเป็นพาหนะให้ยายที่อยู่ในวัยชรา ก่อนจะเดินทางมาปักหลักอยู่ในเมืองหลวงของจอร์เจียอย่างทบิลิซีได้สำเร็จ
“การเสี่ยงคือสิ่งที่ผมคุ้นเคยมากตั้งแต่เด็ก และมันก็อยู่ในดีเอ็นเอของ Vetements” เด็มนา กวาซาเลียพูดถึงแบรนด์ ที่ร่วมสร้างมากับน้องชาย กูรัม กวาซาเลีย (Guram Gvasalia)
“ในโลกแฟชั่นปัจจุบัน คุณต้องเสี่ยงเพื่อความอยู่รอด”
กวาซาเลียใช้ชีวิตอยู่ในทบิลีซีได้เพียง 2 ปี กระทั่งอายุ 12 ปี เขาก็ต้องหนีอีกครั้ง เมื่อสงครามกลางเมืองทวีความรุนแรงขึ้น ระหกระเหินข้ามประเทศ ไปปักหลังใช้ชีวิตในเมืองดืสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ในปี 2001 แม้หลังสงครามสงบลง เขาจะกลับมาเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ที่ทบิลิซี เมืองหลวงของจอร์เจีย ในมหาวิทยาลัย Tbilisi State University อยู่ 4 ปี ด้วยความตั้งใจอยากเป็นนายธนาคารตามที่ครอบครัวคาดหวัง
แต่เมื่อมองเห็นเส้นทางอาชีพสายการเงินที่เขาอธิบายว่าคงทำให้เขาเป็น “คนที่ไร้ความสุขที่สุดในโลก” เขาก็ตัดสินใจหนีอีกครั้ง ความสนใจในงานศิลปะที่มีอยู่เดิม ผลักดันให้กวาซาเลียขวนขวายไปเรียนรู้ด้านแฟชั่นที่สถาบันศิลปะชื่อดังอย่าง The Royal Academy of Fine Arts ในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม จบออกมาด้วดีกรีปริญญาโท จนกระทั่งมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำมากมาย
การก้าวขึ้นมาเป็นดีไซเนอร์ใหญ่ให้กับห้องเสื้อ Balenciaga ของ Demna Gvasalia
ปี 2015 หลังจากถูกทาบทามจาก Balenciaga ที่อยากได้ดีไซเนอร์ใหม่ เดมนา กวาซาเลีย ก็ตอบรับการทาบทามและดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนแปลงแบรนด์สัญชาติสเปนที่มีอายุกว่า 103 ปีแบรนด์นี้ ให้กลายเป็นแบรนด์ที่ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้นด้วยการทำลักษณะเด่นของแฟชั่น Street Wear เข้ามา ผสมผสานกับแรงบันดาลใจจากประเด็นทางสังคม อย่าง ภาวะโลกร้อน ความอดยากและคนดังในข่าว
จะเห็นได้ชัดว่า ชิ้นงานต่าง ๆ โดยฝีมือของ Demna Gvasalia แสดงถึงความกล้าที่จะแตกต่างในโลกธุรกิจแฟชั่น โดยการหยิบสินค้าธรรมดาในชีวิตประจำวัน ที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ มาเพิ่มความโดดเด่น และจัดแสดงใหม่ในฐานะสินค้าฟุ่มเฟือย เสียดสีแฟชั่นชั้นสูงบนรันเวย์ ที่ปกติแล้วจะเน้นภาพลักษณ์อันสูงส่ง
มากไปกว่านั้น Demna Gvasalia ยังพา Balenciaga ไปในทิศทางที่สะท้อนประเด็นทางสังคมมากขึ้น โดยเขามักจะถ่ายทอดแนวคิด ด้วยการใช้เสียงของแบรนด์ สื่อสารเมสเซจผ่านผลงานอยู่เป็นประจำ เช่น การจับมือเป็นพันธมิตรกับโครงการอาหารโลก (World Food Programme) ออกสินค้าแฟชั่นที่มีการสกรีนโลโกของโครงการอาหารโลก เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องปัญหาความอดอยาก พร้อมกับหักรายได้จากสินค้ากลุ่มนี้ ไปสนับสนุนโครงการอาหารโลกอีกด้วย
หรือการแต่งตัวแบบ Bernie Sanders นักเมืองหัวเอียงซ้ายรุ่นเก๋าขวัญใจคนชาวอเมริกันรุ่นใหม่ ซึ่งเคยดูเชยและไม่เข้ากัน ให้ดูเท่ขึ้นมา จนปลุกเทรนด์การแต่งตัวแบบ Normcore และต่อยอดสู่การออกรองเท้า Sneaker ทรงโตในเวลาต่อมอีกด้วย ซึ่งถูกใจเหล่าคนรุ่นใหม่มาก ๆ ตามด้วยการนำถุงพลาสติก ตระกร้าจ่ายตลาดมาเป็นไอเท็มแฟชั่น ในคอลเล็กชั่น Clone ที่สื่อว่าแบรนด์หรูกับแบรนด์โนเนมที่ใส่กันทั่วไปก็เหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออก !
ในปี 2021 งาน MET Gala ดีไซเนอร์รุ่นใหญ่เจ้าของไอเดียแสบแห่งBalenciaga เป็นคนออกแบบชุดดำสนิทปิดตั้งแต่หัวจรดเท้าและใส่คู่กับ Kim Kadashian รวมไปถึงเป็นแกนนำให้ Balenciagaกับ Crocs จับมือกันทำ รองเท้ายางทรงโตปักหมุดเอาใจพังค์ออกมา นับจากนั้นBalenciaga ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นที่ได้รับความนิยม และประสบความสำเร็จมากที่สุด ณ เวลานี้
สไตล์อิทธิพลมาจากจอร์เจียในช่วงวิฤติหลังสงครามยุค 90
ดีไซเนอร์รุ่นใหญ่เจ้าของไอเดียแสบแห่งBalenciaga ได้เล่นตลกกับโลกแฟชั่นทั้งใบ แต่ผู้คนก็ยอมจ่ายเพื่อให้เขาทำสิ่งนั้น เรียกได้ว่าอัจฉริยะมาก นอกจากนั้น สไตล์ของเขาน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากจอร์เจียในช่วงวิฤติหลังสงครามยุค 90 เสื้อผ้าโคร่ง ๆ ขาด ๆ หรือบางครั้งก็เลอะเทอะสกปรก ไม่ว่าจุดประสงค์ของเขาจริง ๆ จะเป็นเช่นไร แต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผลงานของ Demna Gvasalia ร้างอิมแพ็คจนถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในทุกแพลตฟอร์ม
กวาซาเลียคือผู้อำนวยการสร้างสรรค์ของแบรนด์ชั้นนำอย่างBalenciaga และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์สตรีตแฟชั่นสุดล้ำอย่าง Vetements แต่มากไปกว่านั้น เขาเคยเป็นเด็กน้อยจากประเทศเล็ก ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตอย่างจอร์เจีย โดยเขาต้องหนีภัยสงครามจากบ้านเกิดด้วยวัยเพียง 12 ปี เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเจ็บปวด ทะยานตัวเองขึ้นมาจากความไร้หวัง กระทั่งสร้างสีสันให้โลกแฟชั่นได้อย่างน่าชื่นชม
“ผมไม่คิดว่าความสูงส่งคือสิ่งที่เชื่อมโยงกับผู้คน” ดีไซเนอร์รุ่นใหญ่เจ้าของไอเดียแสบแห่งBalenciaga ประกาศกร้าว
ด้วยแนวคิดนี้เองที่ทำให้ผลงานที่มุ่งเป้าทำลายความสูงส่งของแฟชั่นของเขาเขย่าโลกต่อเนื่อง ด้วยการนำของที่อยู่ในชีวิตประจำวันจริงๆ มาขึ้นรันเวย์แฟชั่นอันสูงส่ง ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ายี่ห้อ Crocs ที่ดูจะเป็นรสนิยมสาธารณ์ (Kitsch) สำหรับคนคลั่งแฟชั่น แต่ด้วยการจับมันมาอยู่กับ Balenciaga
ดีไซเนอร์รุ่นใหญ่เจ้าของไอเดียแสบแห่งBalenciaga ก็พา Crocs เข้าสู่โลกแฟชั่นที่คนทั่วไปแตะต้องได้ยากอย่างเต็มภาคภูมิ หรือกระทั่งถุงที่มีลักษณะคล้ายถุง IKEA กวาซาเลียก็เคยนำมันไปตบหน้าคนแฟชั่นทั้งโลก ส่วนผลงานที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยกันดีของเขา น่าจะเป็นถุงใบใหญ่สีสันสดใส ที่แอบคล้ายถุงใส่ของตามตลาดสำเพ็งนั่นเอง
“แฟชั่นสำหรับผมคือกระจกส่องสะท้อนสิ่งที่กำลังดำเนินไปรอบ ๆ ตัวเรา” กวาซาเลียกล่าว
“ผมเป็นนักปฏิติบัติการ ไม่ใช่ดีไซเนอร์ ผมต้องการออกแบบและถ่ายทอดสารบางอย่างออกไป ผมไม่ได้ต้องการแค่ออกแบบเพื่อผลลัพธ์ทางด้านแฟชั่น ผมต้องการสร้างบทสนทนาที่ใช้แฟชั่นเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร”
ดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลัง ไอเดียสุดแปลก เขย่าวงการแฟชั่น
ในปี 2014 เขาสร้างแบรนด์ของตัวเองชื่อ Vetements ขึ้นมา และด้วยแนวคิดที่แสนขบถ หัวรุนแรง มีผลงานที่ให้รูปลักษณ์สะท้อนความเป็นอาวองการ์ด (Avant-Garde) ต่างจากแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์ที่เน้นไปในทางโอต์กูตูร์ (Haute couture) อันหรูหรา แถมยังพาแฟชั่นโชว์ในคอลเลกชั่นต่าง ๆ ไปอวดโฉมในสถานที่แปลก ๆ เช่น คลับบริการทางเพศใต้ดิน หรือร้านอาหารจีน
เขาก็ได้เขย่าวงการแฟชั่นครั้งแล้วครั้งเล่า กลายเป็นนักออกแบบผู้ทรงอิทธิพลของโลก จนกระทั่งเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างสรรค์ของแบรนด์ชั้นนำอย่างBalenciaga ในปี 2015 และปรากฏตัวแบบเฟียส ๆ เดินพรมแดงเรียกเสียงฮือฮาพร้อมกับคิม คาร์เดเชียน ในงาน MetGala ประจำปี 2021
เขาคือแฟชั่นดีไซเนอร์คนหนึ่งทึ่เข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นอย่างดี กวาซาเลียนำแฟชั่นเข้าสู่บทสนทนาของโลกออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น meme มากมาย ซึ่งชาวเน็ตได้รับแรงบันดาลใจมาคอลเลกชั่นต่างๆ ของกวาซาเลีย ชัดๆ ก็เช่น ถุง IKEA ที่ถูกนำมาตัดต่อ ทำใหม่ และโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรมกันจนเป็นเทรนด์อยู่ช่วงหนึ่ง
ไม่ว่างานของกวาซาเลียจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ไปในแง่บวกหรือลบ ก็ยังนับได้กวาซาเลียได้ทำสิ่งที่เขายึดมั่นตลอดมาได้สำเร็จอย่างงดงาม นั่นคือการพยายามทำลายความสูงส่งของแฟชั่น และลากมันลงมาสู่ถนนบนโลกของความเป็นจริง แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าสินค้าของเขามีราคาแพง แต่เขาก็ทำให้หัวใจของใครหลายคนที่แม้จะไม่มีเงินซื้อสินค้าเหล่านั้นเต้นแรงได้
ด้วยการขับเคลื่อนของแรงบันดาลใจ กวาซาเลียแปลงความคิดของตัวเองให้กลายตัวแทนของมนุษย์ปุถุชนทั่วไป ผ่านการส่องสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกอันสามัญให้แฟชั่นอันสูงส่งซึ่งอยู่ในโลกแห่งความฝันได้เห็น
ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เว็บดูบอลสดฟรี
บทความอื่น ๆ ที่แนะนำ >>