Levi’s Jeans เปิดประวัติความเป็นมาของแบรนด์กางเกงยีนส์ที่ทุกคนรู้จัก

Levi’s Jeans คงไม่มีใคร ที่ไม่รู้จักเจ้ากางเกงยีนส์ ที่นับว่าเป็นไอเท็มหลักในการ แต่งกายสุดฮิต สุดคลาสสิก แต่จะมีใครรู้บ้างว่า กางเกงยีนส์เหล่านี้ มีวิวัฒณาการมาจาก กางเกงของนักขุดทอง ขุดเมือง ซึ่งต้องมีการใช้กางเกง ที่มีความแข็งแรงทนทาน ต่อสภาพแวดล้อม จนกลายมาเป็นกางเกงยีนส์ ที่ได้เดินทางเข้าสู้เส้นทางของแฟชั่น

Levi’s นับว่าเป็นแบรนด์ของกางเกงยีนส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แบรนด์หนึ่ง ของโลกตะวันตก เราทุก ๆ คน ต่างได้ยินชื่อแบรนด์นี้กันมาอย่างยาวนาน เพราะมีชื่อเสียง และเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่ทุกคนจะมอง หากเมื่อคิดถึงกางเกงยีนส์ แล้วเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น เนื่องจาก Levi’s เป็นแบรนด์แรก ที่ได้ผลิตกางเกงยีนส์ และเป็นต้นแบบ ของกางเกงยีนส์ 5 กระเป๋า ที่เรารู้จักนั้นเอง โดยในวันนี้ เราจะพาทุกคนไป เปิดประวัติแบรนด์ดัง ความเป็นมาของ Levi Strauss & Co.

จุดเริ่มต้นของกางเกงยีนส์ และ Levi Strauss ชายผู้ให้กำเนิด

กางเกงยีนส์ ถูกคิดค้นขึ้นใน ยุคตื่นทอง หรือ Gold Rush ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เราจะคุ้น ๆ ชินในภาพของยุคคาวบอยส์ ซึ่งเป็นยุคสมัย ทางประวัติศาสตร์ ที่มีการสร้างความเปลี่ยนแปลง ให้กับมนุษยชาติบนโลกใบนี้ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยยุคตื่นทอง เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1848 เนื่องจาก มีคนงานคนหนึ่ง ขุดพบเข้ากับ สายแร่ทองคำ ในแถบชิงเขา เซียร์เนวาดา (Sierra Nevada) ที่อยู่ในฝั่งตะวันออก ของ ซานฟรานซิสโก (San Francisco) และเมื่อข่าวดังกล่าว ได้แพร่กระจายออกไป ก็ทำให้บรรดานักขุดทอง ทั้งหลายและผู้คน จำนวนมาก หลั่งไหลกันมายัง แถบชิงเขาดังกล่าว

ซึ่งในบรรดานักธุรกิจ ที่เดินทางมาเพื่อแสวงหากำไร ณ ที่แห่งนั้น ก็มีชายคนหนึ่ง เดินทางมาที่นั่นด้วยเช่นกัน เขาคือ ลีวาย สเตราส์ (Levi Strauss) ชายชาวเยอรมัน ซื้อสายยิว ที่อพยพมาอยู่ที่ซานฟรานซิสโกกับพี่สาวของเขา ในณะที่ ผู้คนต่าง ๆ เตรียมตัวเขาเหมือง เพื่อไปล่าหาทองคำกัน แต่สเตราส์กลับไม่ได้กินเช่นเดียวกัน กับคนเหล่านั้น เขาเล็งเห็นโอกาส ที่จะนำเต็นท์มาขายแก่ นักขุดเหมือง ที่เหมืองแร่ ทว่าทุกคนที่เดินทางมา ต่างก็มีเต็นท์พักกันหมดแล้ว

แต่ทันใดที่เขาสังเกต ก็พบว่ากางเกงของนักขุดแร่ ส่วนใหญ่มักชำรุดและขาดง่าย ซึ่งในตอนนั้นเอง สิ่งนั้นก็ทำให้เขาเกิดความคิดที่ชาญฉลาดขึ้น สเตราส์นำผ้าเต็น ที่มีอยู่มาตัดเย็บ เป็นกางเกงเพื่อขายแก่นักขุดทอง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า การพลิกวิกฤต ให้เป็นโอกาสในครั้งนั้น จะทำให้เขาประสบความสำเร็จ ในการผลิตกางเกงเป็นอย่างมาก แถมผ้าเต็นท์ ที่เขานำมาใช้ ก็ยังมีคุณสมบัติทนทาน เหมาะแก่การใช้งานในการทำงานของนักขุดเหมือง จึงถูกใจเหล่านักขุดทอง เข้าเต็ม ๆ

ไม่นานนักกางเกงของลีวาย สเตราส์ ก็ขายดีจนผ้าเต็นท์ขาดตลาด

ลีวาย สเตราส์ จึงเริ่มทำการนำผ้าฝ้าย ที่มีเนื้อผ้านุ่มกว่า มาผลิตกางเกงแทน ซึ่งถูกสั่งทอมาจากเมืองเจนัว (Genao) ประเทศอิตาลี เป็นผ้าฝ้ายที่มีเนื้อหยาบ และมีความทนทาน ผ้าชนิดนี้ ถูกส่งออกจากเมืองเจนัว ไปทั่วทั้งยุโรป จนชาวฝรั่งเศสเรียกเมืองเจนัวนี้ว่า “Gênes” (แฌน) และเรียกสินค้าจากเมืองเจนัวว่า “Gène” (ฌองส์) ซึ่งคำพูดที่ชาวฝรั่งเศสเรียกถูกพัฒนามาเป็นภาษาพูดในอเมริกาว่า “Jeans” นี่เอง

นอกจากยุค Gold Rush จะเป็นจุดเริ่มต้นของกางเกงยีนส์ ในตอนที่ทอง ถูกขุดค้นพบ ก็มีมูลค่าประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งยุคตื่นทองนี้เอง ก็ทำให้ดินแดน แคลิฟอร์เนีย กลายเป็นรัฐหนึ่ง ในประเทศสหรัฐอเมริกา เลยทีเดียว เนื่องจากกฎเกณฑ์ของการเป็นรัฐ จะต้องมีประชากรในพื้นที่ อย่างน้อย 60,000 คน จากปกติที่ แคลิฟอร์เนีย มีประชากรเพียงแค่ประมาณ 14,000 คน กลับมีประชากรเพิ่มมากขึ้นถึง 60,000 คน ภายในระยะเวลา 1 ปี และเลื่อนขั้นเป็นรัฐแคลิฟอร์เนียในที่สุด

Levi Strauss พ่อทุกสถาบันแห่งกางเกงยีนส์ Levi’s Jeans

สเตราส์ คิดค้นวิธีการตัดเย็บกางเกงยีนส์ เพื่อให้มีความทนทานมากขึ้น ในขณะเดียวกันนั้นเอง จาคอบ เดวิส (Jacob Devis) ก็เขียนจดหมายไปหาสเตราส์ เพื่อที่จะเสนอการถือสิทธิบัตรกางเกงยีนส์ร่วมกัน กางเกงยีนส์ได้รับการจดสิทธิบัตร เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2416 โดยเจ้าของสิทธิบัตร เป็น Levi Strauss  และ Jacob Davis หลังจากการจดสิทธิบัตร ทั้งสองคนจึงร่วมมือกันสร้างกางเกงที่ทนทานต่อการฉีกขาด และเหมาะสำหรับคนงานที่ทำงานในเหมืองแร่

ในปี ค.ศ. 1853 กางเกงยีนส์ Levi’s ตัวแรกของโลก ที่เป็นผ้าใบสีเบจถูกผลิตออกมาให้ผู้คนได้ใช้งาน ต่อมากางเกงยีนส์ได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงมาเรื่อยๆ มีการผลิตเป็นขายาว เพื่อที่จะประหยัดถุงเท้าของคนขุดทอง แถมยังมีการเพิ่มริ้วกางเกงและช่องกระเป๋าเล็ก ๆ ไว้เพื่อใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายหลังมีการใส่ห่วงเข็มขัด กระเป๋าหลัง และซิปเพิ่มเติมมาด้วย จากนั้นกางเกงยีนส์จึงถูกเปลี่ยนแปลงมาใช้ผ้าฝ้ายหยาบ ถักทอด้วยเส้นด้าย และตอกหมุดทองแดงเล็ก ๆ ที่มุมกระเป๋าเพื่อยึดกางเกงให้อยู่ทน เมื่อกางเกงยีนส์ที่สมบูรณ์แบบถูกสร้างขึ้น ไม่นานก็แพร่กระจายไปทั่วอเมริกาอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีกางเกงยีนส์กว่า 6,000 ตัว ถูกผลิตออกสู่ตลาดจากโรงงานเพียงแค่ 2 แห่ง

วิวัฒนาการของกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน

• ค.ศ. 1902 เมื่อ Levi Strauss เสียชีวิต หลานชายของเขา Sigmund Stern ก็มาดูแลกิจการต่อ
• ค.ศ. 1916 ก่อตั้งบริษัทเสื้อผ้า Blue Bell โดย ‘Wrangler’
• ค.ศ. 1920 เมื่อนักประดิษฐ์กางเกงยีนส์ทั้งสองคนเสียชีวิตลง จึงเกิดความคิดที่จะย้อมกางเกงยีนส์ด้วยสีน้ำเงินคราม
• ค.ศ. 1921 เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ตัวแรกได้ถูกผลิตขึ้น
• ค.ศ. 1947 ผลิตยีนส์น้ำเงินตัวแรก ชื่อว่า ‘Wrangler’
• ค.ศ. 1953 เป็นปีที่มีกางเกงยีนส์สำหรับผู้หญิงขึ้นในเยอรมนี ซึ่งถูกสงวนไว้สำหรับผู้หญิงชนชั้นสูงที่ร่ำรวยเท่านั้น
• ค.ศ. 1968 การเคลื่อนไหวของ Hippie กลุ่มหนุ่มสาวที่สืบทอดวัฒนธรรมแปลกแยก ช่วยให้กางเกงยีนส์สีน้ำเงินกลายเป็นที่รู้จักทั่วทั้งยุโรป ในฐานะเสื้อผ้าเยาวชนมาตรฐาน และเป็นปีแรกที่มีการจำหน่ายกางเกงยีนส์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์
• ค.ศ. 1986 เปิดตัว Levi’s 501 ในยุโรป
• ค.ศ. 1970 กำเนิดกางเกงยีนส์ขาม้า ส่วนสะโพก หัวเข่า และต้นขา ถูกตัดเย็บให้แคบพอดีตัว บริเวณช่วงเอวถูกออกแบบให้มีลักษณะทรงสูง เพื่อเพิ่มความสวยงามในการเคลื่อนไหว

ความเป็นเอกลักษณ์ของกางเกงยีนส์ คือความสะดวกสบาย ความทนาน และให้เสรีภาพ ในการเคลื่อนไหวร่างกาย และในขั้นตอนของการผลิต กางเกงยีนส์นั่น ๆ จะต้องถูกทดสอบการฉีดขาด และยังต้องมี ตะเข็บที่แข็งแรงทนทาน ในการเก็บของของผ้ายีนส์ ผู้หญิงส่วนใหญ่ นิยมกางเกงยีนส์ที่มีความกระชับ โดยการตัดเย็บแบบรัดรูปบริเวณขาส่วนบน และขาส่วนล่าง ไม่เพียงเท่านั้น นักดนตรีต่างก็พากันใส่กางเกงยีนส์ทรงผม ที่เป็นเทรนด์ต่อ ๆ กันมา เพื่อเน้นความเป็นกบฎ และการต่อต้านค่านิยมเดิม ไม่นานนัก Slimmy Jeans ก็ถูกพัฒนาขึ้นอีก ให้มีเส้นโค้งรับสรีระของผู้ใส่