Longines เปิดประวัติแบรนด์นาฬิการะดับตำนานที่มีความเป็นอมตะ
Longines เมื่อพูดถึง แบรนด์นาฬิการะดับไฮเอนด์ ที่มีประวัติอันยาวนาน และมีความชำนาญเฉพาะในด้านการผลิตนาฬิกา ปัจจุบันนี้ ก็มีแบรนด์นาฬิกามากมาย ที่แน่นอนว่า เราจะต้องคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่บ้าง
นาฬิกาไฮเอนด์ เป็นสิ่งของที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ฝันอยากจะเป็นเจ้าของกันสักเรือน เพราะมันเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ถึงความสำเร็จ รสนิยม หรือสถานะของผู้สวมใส่ได้ และสำหรับบางคน มันถือว่าเป็นการลงทุนอีกด้วย เนื่องจากนาฬิการาคาแพงเหล่านี้ มักจะมีการใช้ระยะเวลาในการผลิตที่นาน และทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ ด้วยความที่มีจำนวนจำกัด และมีราคาสูง บางรุ่นก็สามารถนำไปขายต่อได้ ในราคาสูงที่ขึ้นเป็นเท่าตัวเลยเช่นเดียวกัน
สำหรับนาฬิการะดับไฮเอนด์นั้น ก็ได้รับความน่าสนใจ และเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องมายาวนาน ซึ่งก็มีอยู่หลากหลายแบรนด์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Rolex, Cartier, Patek Philippe, Omega, Tudor และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ในวันนี้เราพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแบรนด์หนึ่ง นั่นก็คือ ลองจินส์ (Longines) นั่นเอง
ลองจินส์ คือ แบรนด์นาฬิกา สัญชาติสวิส ที่มีประวัติความเป็นมา ที่มีความยาวนาน และเกาแก่ ด้วยซิกเนเจอร์ของแบรนด์ที่มี “เทคนิคที่ถ่ายทอยกันมา”, “ความหรูหราสง่างาม”, “คุณภาพ” และ “ความเที่ยงตรง” ซึ่งเป็นคุณค่าที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้ง
ออกุสต์ อากาซิซ (Auguste Agassiz) เริ่มต้นสร้างเครือข่ายช่างฝีมือนาฬิกา ที่ผลิตชิ้นส่วนเพื่อสั่งให้ Agassiz & Co. ก็มีการประกอบนาฬิกาขายในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ จนมาถึงยุคบุกเบิกของหลานชาย เอิร์นเนสต์ ฟรนซิลลง (Ernest Francillon) ผู้ที่เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาเทคนิคกลไกนาฬิกา
ต่อมาก็มีการก่อตั้งโรงงานบนที่ดินหุบเขาริมน้ำ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “Longines” ชื่อแม่น้ำดังกล่าวได้กลายมาเป็นชื่อ ของตำนานเรือนเวลา ที่มีความอมตะ นิยามของความคลาสสิก โดยมีสัญลักษณ์ เป็นโลโก้รูปนาฬิกาทรายติดปีก อันโด่งดังมาจนจวบปัจจุบันนี้
พูดถึงตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 188 ปี ต้องบอกว่า ลองจินส์ ให้ความสำคัญ ด้านนวัตกรรมอย่างมาก และเป็นผู้บุกเบิกด้านกลไกนาฬิกา ในยุคช่วงท้ายศตวรรษที่ 19 ลองจินส์ยังได้รับความนิยมในกลุ่มของ นักผจญภัยใช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อีกด้วย นอกจากมีความทันสมัย และตอบโจย์ สามารถใช้ในกีฬาประเภทต่าง ๆ ทุกชนิด
หลังจากนั้นก็ได้มีการเปิดตัวนาฬิการะบบควอตซ์ ที่มีความทันสมัยมากขึ้น อีกทั้ง ลองจนส์ ยังเข้าใจดีเกี่ยวกับรสนิยมของผู้คน และการใช้งานที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
จุดเริ่มต้นของเรือนเวลาตระกูลต่าง ๆ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1832 – 1984 ของลองจินส์ ก่อนพัฒนามาเป็นรุ่นที่ทันสมัยในปัจจุบัน
ในปี ค.ศ. 1832 Auguste Agassiz ได้ร่วมมือผลิตนาฬิกากับช่างทำนาฬิกาอีกสองคนเพื่อดำเนินงานใน Raiguel Jeune et Cie comptoir ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นที่ทำงานของ Auguste Agassiz และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการผลิตนาฬิกา Longines
ในปี ค.ศ. 1867 นาฬิกาเรือนโบราณแรก ภายใต้แบรนด์ลองจินส์ พร้อมโลโก้นาฬิกาทรายติดปีก พร้อมหมายเลขรุ่น (Serial number) ก็ได้ปราฏโฉมต่อสาธารณชน โดยนาฬิกาพร้อมหมายเลขรุ่น 335 คือนาฬิกาลองจินส์รุ่นที่เก่าแก่ที่สุด ที่บริษัทมีไว้ในครอบครอง
ลองจินส์เข้าร่วมงานเอ็กซ์โปในกรุงปารีส (Expo Universelle Paris) ในปี ค.ศ. 1900 โดยได้จัดแสดงนาฬิกาพก La Renommée ที่ได้รับการติดตั้งด้วยกลไกโครโนมิเตอร์ และได้รับรางวัลภายในงานอีกด้วย ซึ่งต่อมาลองจินส์ยังได้รับรางวัลต่างๆ อีกมากมายจนทำให้ได้รับยกย่องว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก
ในปี ค.ศ. 1902 ก็ได้มีการผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกสำหรับสุภาพสตรี ลองจินส์ รังสรรค์นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี มาตั้งแต่ปลายยุคศตวรรษที่ 19 โดยตัวเรือนสีทองจากปี 1902 นี้นับว่าเป็นเรือนที่เก่าแก่ที่สุดที่ได้เก็บรักษาอยู่ในคอลเลกชั่นประวัติศาสตร์ของ ลองจินส์
ต่อมาก็เป็นยุคที่มีความนิยมในการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ซึ่งกีฬาแข่งม้าก็ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนั้น ปี ค.ศ. 1911 นาฬิกาพกสำหรับนักแข่งม้าก็ถูกผลิตออกมา เป็นนาฬิกาพกโครโนกราฟและบอกเวลาด้วยเสียง (minute repeater) จากปี 1911 เรือนนี้ตกแต่งด้วยศีรษะม้า 3 ตัวที่อยู่ระหว่างการแข่งขัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหลที่ ลองจินส์ มีต่อกีฬาขี่ม้า นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์นาฬิกาพกที่ได้นำกลับมาทำใหม่ในจำนวนจำกัด
ปี ค.ศ. 1916 ลองจินส์ ได้เริ่มผลิต นาฬิกาจิวเวลรี่ ออกมาจำหน่าย โดย นอกจากจะรังสรรค์นาฬิกาข้อมือเรือนเล็กสุดหรูสำหรับสุภาพสตรีแล้ว ลองจินส์ยังได้นำเสนอเรือนเวลาที่เป็นทั้งนาฬิกาและเครื่องประดับที่สามารถเป็นจี้ห้อยคอ แหวน หรือเข็มกลัดอีกด้วย
ในปี 1935 ในช่วงยุคสงครามโลก ลองจินส์ก็ได้ผลิตนาฬิกาให้กับกองทัพสหรัฐฯ โดยเรือนนี้มีความสมบูรณ์แบบทั้งในแง่ของความสวยงามและคุณสมบัติทางเทคนิคที่ตรงตามความต้องการของทหารทุกประการ จึงทำให้นาฬิกาเรือนนี้ได้จัดประเภทเป็น Type A-7 ซึ่งเป็นโมเดลที่โดดเด่นในเรื่องของหน้าปัดเอียง
ปี ค.ศ. 1936 ลองจินส์ได้พัฒนาเครื่อง Siderograph เพื่อบอกเวลาทางดาราคติ ณ เมืองกรีนิช ซึ่งเครื่องนี้เปรียบเสมือนกับต้นแบบของเครื่อง GPS และเป็นที่นิยมในหมู่นักบินและนักเดินเรือ ปัจจุบันนักสะสมต่างก็พากันตามหาเครื่องนี้ เนื่องจากเป็นไอเท็มหายาก
ในปี ค.ศ. 1939 ลองจินส์ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการจับเวลาให้กับวงการกีฬามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยได้เปิดตัวกลไกคาลิเบอร์โครโนกราฟ 24-line ออกมา
นาฬิกาตัวเรือนสตีลจากปี 1946 เรือนนี้มีกลไกโครโนกราฟที่โด่งดังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลองจินส์ โดยใช้ คาลิเบอร์ 13ZN จากปี 1936 ซึ่งในปัจจุบันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกายกย่องให้เป็นคาลิเบอร์ที่ดีที่สุดที่ลองจินส์เคยผลิตมาก็ว่าได้
นับตั้งแต่ช่วงปี ปี ค.ศ. 1950 เป็นต้นมา นาฬิกาของลองจินส์ ก็ได้มีการแบ่งนาฬิกาให้เป็นหมวดหมู่ โดย Conquest นับเป็นตระกูลแรกของแบรนด์ มีเอกลักษณ์ที่ฝาหลังตกแต่งรูปเหรียญลงยา
นาฬิกา Diver เรือนนี้ ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1959 โดยมีตัวเรือนแบบขันเกลียวและฝาหลังตกแต่งเหรียญรูปนักดำน้ำถือฉมวก หลังจากเป็นที่นิยมใช้ในหมู่กองทัพในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นาฬิกาดำน้ำเรือนนี้ก็เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่คนธรรมดาทั่วไปในช่วงปลายยุค 1950 ซึ่งเป็นช่วงที่กีฬาทางน้ำได้รับความนิยมอย่างมาก
หนึ่งก้าวที่สำคัญ ที่ทำให้ ลองจินส์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านกลไกควอตซ์ คือการพัฒนารุ่น Conquest V.H.P. (Very High Precision) ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ก็พัฒนาสำเร็จในปี 1984 มาพร้อมความเที่ยงตรงสูง (± 1 นาที/5 ปี) ทำให้นาฬิกามีความเที่ยงตรงสูง 5-10 เท่ากว่านาฬิกาควอตซ์ทั่วไปในยุคนั้น
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ชื่อของ ลองจินส์ คือนิยามของความหรูหราสง่างาม ที่เหล่าสาวกที่หลงใหลนาฬิกา และเหล่านักสะสมต่างหมายปอง ตัวเรือน ดีไซน์ รวมไปจนถึงวัสดุเลอค่าที่ประกอบขึ้นเป็นนาฬิกา
เราจะเห็นว่าลองจินส์ ในทุก ๆ รุ่น ล้วนสะท้อนบุคลิกอันหรูหรา ไร้กาลเวลา และทำให้นาฬิกาทุกเรือนของ ลองจินส์ เป็นมากกว่าอุปกรณ์บอกเวลา หากแต่ยังเป็นเครื่องประดับเลอค่าที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์การออกแบบและทัศนคติ ที่งดงามและน่าหลงใหลไม่แพ้ประสิทธิภาพในการบอกเวลาของกลไกล้ำยุคที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้รูปลักษณ์สง่างามดังสโลแกนที่ว่า Elegance is an attitude อย่างแท้จริง
แหล่งอ้างอิงข้อมูล : แทงบอล
ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เว็บดูบอลสดฟรี
แบรนด์อื่นๆ ที่แนะนำ >> รองเท้า Keds