Brand name fashion updates
Brand Name เปิดแบรนด์ที่หลายๆท่านนั้นจะต้องรู้จัก มีติดตัวแล้วปังแน่นอน
Brand name fashion updates
Brand Name เปิดแบรนด์ที่หลายๆท่านนั้นจะต้องรู้จัก มีติดตัวแล้วปังแน่นอน

Maria Grazia Chiuri ผู้ขับเคลื่อนมุมมองเฟมินิสต์ ผ่านงานออกแบบเครื่องแต่งกาย

Maria Grazia Chiuri

Maria Grazia Chiuri ดีไซเนอร์ผู้ขับเคลื่อนมุมมองเฟมินิสต์ ผ่านงานออกแบบเครื่องแต่งกาย

Maria Grazia Chiuri เมื่อกล่าวถึงแบรนด์แฟชั่น ที่มีทั้งความหรูหรา ทันสมัย และมีเอกลักษณ์ ตามแบบฉบับเดิมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไม่กล่าวถึง แบรนด์เนมดัง ลักชัวรี่ สัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Dior เพราะว่านอกจากแบรนด์นี้ จะมีทั้งประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาตั้งแต่ปี 1947 แล้ว ก็ยังเป็นหนึ่งในแบรนด์ ที่มีความประสบสำเร็จอย่างมาก ของอุสาหกรรมแฟชั่น ที่ครองใจผู้คนมาทั่วโลก

จากผลงานที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้วยสินค้า ที่รังสรรค์จากฝีมือของดีไซเนอร์โด่งดังมากมาย หลายต่อหลายคน ที่เลยร่วมงานกับแบรนด์นี้ แน่นอนว่าวันนี้เราจะพูดถึง มาเรีย กราเซีย คิอูรี หญิงผู้เป็นคนแรกที่ได้นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการของฝ่ายการศิลป์ หรือ Artistic Director ของ Dior มาตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปัจจุบัน

ซึ่งเธอเป็นผู้ขับเคลื่อนมุมมองความเป็นเฟมินิสต์ ผ่านงานการออกแบบของเครื่องแต่งกาย ได้อย่างน่าประทับใจอีกด้วย ซึ่งวันนี้ เราจะพาผู้อ่านทุกคน ไปทำความรู้จักกับเธอ ที่จะได้เห็นตัวตน และวิสัยทัศน์ของเธอ ให้มากขึ้นไปพร้อม ๆ กัน แน่นอนว่าคุณจะได้เห็นว่า อะไรที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จอย่างมากมายขนาดนี้

ย้อนรอยเส้นทางของ ดีไซเนอร์หญิง ผู้ผลักดันมุมมองแนวคิด เฟมินิสต์

มาเรีย กราเซีย คิอูรี เกิดและโตในกรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยเธอมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่บนโต๊ะอาหารพูดคุยกับครอบครัว พูดถึงเรื่องความเท่าเทียมและสิทธิ์โดยชอบธรรมที่ผู้หญิงควรจะได้รับ เรียกได้ว่ามีสายเลือดของนักขับเคลื่อนอยู่ในตัวตั้งแต่เด็ก

โดยแม่ของเธอคอยปลูกฝังให้เธอเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง ส่งมอบพลังที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้หญิงคนอื่น ๆ และให้เธอยืนหยัดสู้เพื่อความเท่าเทียมในสังคมที่ดูเหมือนว่าผู้ชายจะเป็นใหญ่ในโลกใบนี้

ทำให้เธอมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงและช่วยเหลือผู้หญิงทั่วทุกมุมโลก เธอเข้าเรียนที่ Istituto Europeo di Design ไพรเวตดีไซน์สคูลที่มีชื่อเสียงด้านแฟชั่นและการออกแบบ ถือเป็นจุดเริ่มต้นอันยิ่งใหญ่ในวงการแฟชั่นของเธอ

Maria Grazia Chiuri

เส้นทางความสำเร็จของเธอเริ่มต้นกับ Fendi ในปี 1989 หลังจากที่เธอและ Pierpaolo Piccioli ได้ร่วมกันออกแบบและเปิดตัว It Bag ใบแรก ๆ ของโลกในชื่อ Baguette ซึ่งในภายหลังได้กลายเป็นกระเป๋ารุ่นไอคอนนิกของ Fendi ไปโดยปริยาย และเป็นทรงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกอีกทรงหนึ่งอีกด้วย

หลังจากนั้นในปี 1999 ทั้งคู่ก็ตบเท้าร่วมงานกับ Valentino ในฐานะ Accessories Designer ที่ทั้งสองสามารถรังสรรค์ผลงานได้อย่างโดดเด่นและมีคุณภาพ จนทำให้ได้เลื่อนขั้นนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ร่วมกันในปี 2008 กอบกู้ทั้งชื่อเสียงและยอดขายของ Valentino ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหลังจากเริ่มซบเซาลงไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โดยสามารถพายอดขายของแบรนด์พุ่งทะลุสูงถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์ได้สำเร็จในช่วงปี 2015 และจับมือกันรับรางวัลของ CFDA International Award รางวัล ที่เรียกได้ว่าการันตีคุณภาพงาน และความสำเร็จของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี

Maria Grazia Chiuri

Maria Grazia Chiuri ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์คนใหม่ของแบรนด์ Dior

เป็นเวลายาวนานกว่า 17 ปี ที่เธอได้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่าร่วมกับ Valentino แต่ท้ายที่สุดในปี 2016 ชื่อของเธอก็ถูก Dior ประกาศสู่สาธารณชนว่า เป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์คนใหม่ของแบรนด์ เป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้กับวงการแฟชั่นในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ที่เป็นผู้หญิงคนแรกของ Dior

และในปีนั้นเธอก็ได้พาทุกคนดำดิ่งเข้าสู่ตัวตนที่แท้จริงของเธอผ่านคอลเล็กชั่นแรกใน Paris Fashion Week 2016 ซึ่งเปิดตัวอันยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จเป็นอย่างล้นหลาม หลังจากนั้น เธอก็มีคอลเล็กชั่นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจออกมาอีกมากมาย สร้างเสียงฮือฮาบนโลกแฟชั่นอย่างถล่มทลายอีกครั้ง เมื่อเธอได้นำกระเป๋ารุ่นไอคอนิกของแบรนด์อย่าง Saddle Bag กลับมาสู่รันเวย์อีกครั้งในคอลเล็กชั่น Fall 2018 สานต่อผลงานของ John Galliano ที่ออกแบบให้กับ Dior ในช่วงปี 1999 ให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในปัจจุบัน

Saddle Bag

กลายเป็นกระเป๋าที่ได้ไปโลดแล่นในวงการภาพยนตร์ โฟโต้ชู้ต และยังเป็นกระเป๋าคู่ใจของคนดังมากมายช่วงต้นปี 2000 ก่อนจะหายไปในปี 2007 ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเธอร่วมกับ Dior อีกหนึ่งชิ้น

ซิลลูเอ็ตอันคุ้นตาของเดรสผ้าชีฟอง เทคนิคการจับเดรป ตลอดจนผ้าอัดพลีตล้วนแล้วแต่ถ่ายทอดความเฟมินีนผ่านคอลเล็กชั่นต่าง ๆ ถือเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวของ Dior ในยุคของ Maria เลยก็ว่าได้  เพราะไม่ว่าจะซีซั่นใด ก็จะได้เห็นสไตล์ที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเธอ โลดแล่นอยู่บนรันเวย์อย่างสวยงามในลวดลายที่เธอชื่นชอบ

“ฉันชอบดอกไม้มาก ที่บ้านของฉันมีดอกไม้อยู่แทบจะทุกมุม และฉันก็ยังเอาดอกไม้มาทำเป็นเครื่องแต่งกายอีกด้วย แต่ผู้หญิงอย่างเราไม่ได้มีแค่ความสวยและดึงดูดเหมือนกับดอกไม้เท่านั้น เรามีอะไรมากมายกว่านั้นมาก”

มาเรีย กล่าวถึงที่มาของลายพิมพ์ดอกไม้ยอดนิยมบนเสื้อผ้าที่เธอออกแบบ เธอสามารถผสมผสานทั้งคู่เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว Haute Couture ที่นำเสนอการตัดเย็บแฟชั่นชั้นสูง ความหรูหรา อลังการ ควบคู่ไปกับการออกแบบและลวดลายที่ชวนเพ้อฝัน สร้างแรงบันดาลใจ และดำดิ่งเข้าสู่ห้วงความคิดอันลึกซึ้งของการเป็นผู้หญิง

นี่คือคำอธิบายคอลเล็กชั่นโอต์กูตูร์ ของ Dior ได้เป็นอย่างดี  หลายคอลเล็กชั่นที่ผ่านมา มาเรีย สามารถส่งสารอันทรงพลังถึงผู้หญิงทั่วโลกผ่านการออกแบบและลายปักสุดอลังการของเธอได้อย่างน่าทึ่ง สร้างสรรค์ผลงานที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม แต่ยังถ่ายทอดแนวคิดที่เข้มแข็ง แต่ในขณะเดียวกันก็อ่อนโยนและทรงคุณค่าของผู้หญิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การนำแนวคิดเฟมินิสต์มาสอดแทรกเข้าไปในคอลเล็กชั่นต่าง ๆ

ดิออร์ ในยุคของ มาเรีย ไม่ได้มีไฮไลต์เพียงแค่เสื้อผ้าที่สวยงาม ทรงพลัง และการนำกระเป๋ารุ่นยอดฮิตกลับมาเท่านั้น แต่เธอยังได้ นำแนวคิดเฟมินิสต์มาสอดแทรกเข้าไปในคอลเล็กชั่นต่าง ๆ

“แฟชั่นเปิดโอกาสให้ผู้หญิงทุกคนมีอิสระและสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สังคมในปัจจุบันกำลังตั้งคำถามถึงความเท่าเทียมทางเพศ ปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ และเรื่องอื่นๆ ทำไมเราถึงไม่ค่อยมีศิลปินผู้หญิงที่มีชื่อเสียงล่ะ ทั้งๆ ที่หลายคนก็มีความสามารถ เราควรจะถกเถียงถึงปัญหานี้อย่างจริงจังเสียที เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจและยอมรับถึงความแตกต่างของแต่ละคนด้วย”

มาเรีย กล่าวถึงแรงบันดาลใจ ของคอลเล็กชั่น Spring/Summer ปี 2017 ที่มีไฮไลท์คือเสื้อยืดสกรีนสโลแกน “We should all be feminists” ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากทั้งเหล่า คนดัง ดารา และผู้หญิงทั่วทุกมุมโลกมากมาย

Maria Grazia Chiuri

แนวคิดเฟมินิสต์ของเธอ มีจุดยืนที่ชัดเจนและทรงคุณค่ามาโดยตลอด เธอมีจุดประสงค์ที่จะใช้แพลตฟอร์มของเธอสร้างโอกาสและเรียกร้องความเท่าเทียมที่แท้จริงในสังคมให้เกิดขึ้นกับผู้หญิง

“เฟมินิสต์ของฉันคือการได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน ในความคิดที่ว่าถ้าคุณเป็นผู้หญิงคุณก็จะได้รับโอกาสนี้เช่นเดียวกันกับเพศอื่นๆ ฉันไม่ค่อยได้เห็นผู้หญิงเก่งๆ ในประเทศบ้านเกิดของฉันมากนัก เพราะพวกเขามันจะให้ความสำคัญและให้โอกาสกับผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เมื่อโตขึ้นและมีโอกาสได้ร่วมงานกับศิลปินผู้หญิงคนอื่นๆ ทำให้ฉันต้องการที่จะสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับผู้หญิง ในทุกๆ โชว์และแคมเปญของ Dior ผู้หญิงจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ Object เท่านั้น แต่พวกเธอจะเป็น Subject ที่นำเสนอเรื่องราวสุดพิเศษผ่านเครื่องแต่งกายที่ฉันและทีมงานร่วมกันรังสรรค์ขึ้นมาจากความตั้งใจของพวกเรา”

นอกจากนี้ เธอยังทำพอดแคสต์ให้ความรู้ ในชื่อ Dior Talks ที่มีศิลปินและบุคคลมีชื่อเสียง ที่ชื่นชมในอุดมการณ์และมีแนวคิดเช่นเดียวกันกับเธอ มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวและมุมมองของแต่ละคน ถือเป็นอีกช่องทางที่ทำให้เราเห็นความสำคัญของปัญหาความเท่าเทียมและสิ่งที่ผู้หญิงต้องเผชิญได้เป็นอย่างดี

มาเรีย ต้องการสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้กับ Dior เพราะเธอเข้าใจถึงความต้องการของผู้หญิงในปัจจุบัน ที่มีความหลากหลายกว่าในอดีต

“ในความคิดเห็นของฉัน เมื่อเรากำลังทำแบรนด์ให้กับผู้หญิง เราก็ต้องส่งข้อความที่ทรงพลังออกไปให้ถึงผู้หญิงทุกคน ไม่ใช่ส่งเพียงแค่เสื้อผ้าออกไปเท่านั้น คุณไม่จำเป็นจะต้องกำหนดสไตล์และความคิดของพวกเธอ คุณเพียงแค่ต้องช่วยให้พวกเธอประสบความสำเร็จในแบบที่พวกเธอต้องการ”

เธอเล่าถึงมุมมองการออกแบบเสื้อผ้า ที่จะเห็นได้ว่า มีการนำเสนอความหลากหลายให้กับแฟน ๆ Dior มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ลุคสาวหวานในชุดผ้าชีฟอง เดรสเข้ารูปสำหรับสายปาร์ตี้ ไปจนถึงลุคสตรีตที่ทั้งเท่และทะมัดทะแมง สายลุย เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้ เข้าถึงลูกค้าในทุกกลุ่มเป้าหมาย อาจเป็นสาเหตุหลักของความสำเร็จในอุตสาหกรรมแฟชั่นของแบรนด์นี้ กระเป๋าสตางค์ สายมู 2022ที่เน้นการเข้าถึงและมีตัวเลือกหลากหลายให้กับลูกค้า

ด้วยแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ได้มีการใช้โซเชียลมีเดียควบคู่ไปกับอินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมทแบรนด์ ร่วมกับแนวคิดเฟมินิสต์ที่เธอสามารถสอดแทรกเรื่องราวไว้ในคอลเล็กชั่นต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยความตั้งใจของเธอที่เข้าใจและต้องการให้ Dior เข้าถึงผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะมีสีผิว รูปร่าง สัญชาติ หรือไลฟ์สไตล์แบบไหนก็ตาม

การตีโจทย์ของเทรนด์แฟชั่นและความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน นับว่าเป็นวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ของ Maria Grazia Chiuri ในยุคที่เธอนั่งเก้าอี้ผู้บริหารฝ่ายศิลป์ เธอได้พาแบรนด์ Dior มาสู่ความประสบความสำเร็จสูงที่สุดในวงการแฟชั่น

ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> แทงบอลออนไลน์ , อนิเมะ

บทความอื่น ๆ ที่แนะนำ >> กระเป๋าสตางค์สายมู