ดีไซเนอร์ผู้รักษ์โลก Stella McCartney พาส่องกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ “FRAYME”
ในวงการแฟชั่นต่างรู้กันว่า Stella McCartney คือดีไซเนอร์รักษ์โลก ซึ่งการออกแบบกระเป๋าของเธอ จะเป็นการเลือกใช้วัสดุที่ผลิตโดยปล่อยคาร์บอนน้อยที่สุด ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง ในปี 2001 เธอก็ยังคงเป็นนักออกแบบที่ภักดีต่อโลก
ผลงานที่ประจักษ์ชัด คือ คอลเลคชั่นกระเป๋า ประจำฤดูใบไม้ร่วง 2021 เป็นการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Our time has come ซึ่งเป็นกระเป๋าใหม่รุ่น FRAYME ที่ผสมผสานเอกลักษณ์แบบคลาสสิก ตามแบบฉบับของ Stella ตัวกระเป๋านั้นตกแต่งด้วยโซ่ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นสายสะพาย และนำมารอยเรียง ไปตามแนวขอบกระเป๋า
แต่งแต้มด้วยโลหะทรงกลม เป็นกระเป๋าที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากศิลปินคนโปรดของเธอ นั่นก็คือ Carl Auböck เมื่อนำทุกอย่างมาประกอบกัน จึงกลายเป็นความทันสมัย ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร
ด้วยอุดมการณ์ในการยุติความโหดร้ายต่อสัตว์ ที่ยึดมั่นมาตลอด Stella McCartney ได้ทุ่มเท และให้ความสำคัญ กับการพัฒนา วัสดุทดแทน และ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไม่หยุดยั้ง โดยเธอสั่งให้มีการใช้เทคนิคระดับสูงในการผลิต เพื่อตอกย้ำถึงความเท่าเทียมของสิ่งมีชีวิต โดย ไม่ใช้หนังสัตว์ หรือขนสัตว์ในกระบวนการผลิตทั้งสิ้น
และกระเป๋ารุ่น FRAYME ที่ Stella ได้พัฒนาวัสดุและดีไซน์ ให้ออกมาโดดเด่น ก็ตอบโจทย์ทุกผู้คนทุกไลฟ์สไตล์อีกด้วย มีหลายขนาดให้เลือกใช้ และมีหลายเฉดสีให้เลิอก พร้อมแคมเปญภาพนางแบบ ในชุดสัตว์ประเภทต่าง ๆ
ดีไซเนอร์จากอังกฤษผู้นี้ เลือกใช้วัสดุที่ผลิตอย่างยั่งยืน เธอปฏิเสธหนังสัตว์ทุกชนิด วันนี้ หนังวีแกน คือวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรต่อสัตว์ทุกชนิดบนโลก
ถามวิถีแบบ ชาววีแกน ที่ไม่กินเนื้อสัตว์ ไข่ นม น้ำผึ้ง และเป็นนักอนุรักษ์ที่มีวินัยในการกิน-อยู่อย่างเข้มข้น ปัจจุบัน หนังวีแกน กำลังเป็นหนังสัตว์เทียมที่มีความต้องการทั่วโลก
วงการออกแบบแฟชั่น-เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ ล้วนต้องการหนังวีแกน เพื่อแลกกับชีวิตสัตว์นับพันล้านชีวิต และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้สารเคมีในกระบวนการฟอกย้อมหนังสัตว์ นักการตลาดคาดว่า หนังวีแกน มีอัตราเติบโตปีละ 49.9% เลยทีเดียว
Stella McCartney คือใคร ประวัติของดีไซเนอร์หญิงผู้รักษ์โลก
สเตลลา แม็กคาร์ตนีย์ เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2514 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เธอคือนักออกแบบแฟชั่นชาวอังกฤษ เป็นที่รู้จักจากเครื่องแต่งกายที่ปราศจากขนสัตว์และหนังเป็นหลัก รวมถึงเป็นที่รู้จักว่ามี ลูกค้าผู้มีชื่อเสียงมากมาย นิยมผลงานการออกแบบของเธอ
สเตลลา แม็กคาร์ตนีย์ เป็นลูกสาวของ Sir Paul McCartney อดีตสมาชิกวง Beatle และ Linda McCartney ช่างภาพชื่อดังและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสัตว์ เธอทำงานช่วงหนึ่งที่ห้องเสื้อตัดเย็บเสื้อผ้าฝรั่งเศส Christian Lacroix และฝึกงานที่ British Vogue ก่อนลงทะเบียนเรียนที่ Central Saint Martin’s College of Art and Design, London
สำหรับการสำเร็จการศึกษาในปี 1995 เธอได้ผลิตรายการระดับบล็อคบัสเตอร์ที่มีนาโอมิ แคมป์เบลล์ ซูเปอร์โมเดลร่วมแสดง แมคคาร์ทนีย์ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของโลกแฟชั่นระดับนานาชาติอย่างรวดเร็ว และในปี 1997 เธอได้รับการว่าจ้างจาก Vendôme Luxury Group ให้ปรับปรุง Chloé แบรนด์ดีไซน์อายุ 45 ปี
แมคคาร์ทนีย์ประสบความสำเร็จในการทำให้ โคลเอ เป็นแบรนด์ที่พึงปรารถนาอีกครั้ง ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คอลเลกชั่นแรกของเธอที่มีกระโปรงชั้นในลูกไม้และเสื้อชั้นในหรูหรา ประวัติดีไซเนอร์หญิงชื่อดัง
ในปี 2001 ของเธอในปารีส กางเกงยีนส์รัดรูปจับคู่กับเสื้อทูนิกหรือแจ็กเก็ต เสื้อโค้ทขนเทียมและประดับเพชรพลอย เสื้อกั๊ก สร้างชื่อเสียงให้กับอาชีพของเธอ แมคคาร์ทนีย์ยังนำลัทธิคนดังมาสู่แบรนด์อีกด้วย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าและเพื่อนที่มีชื่อเสียงของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาดอนน่า (ซึ่งเธอออกแบบชุดแต่งงานให้) นักแสดงหญิง เคท ฮัดสัน (ซึ่งเธอสวมชุดสำหรับพิธีมอบรางวัลออสการ์ในปี 2544) ลิฟ ไทเลอร์ และกวินเน็ธ พัลโทรว์ และนางแบบ เคท มอส.
ในปี 2544 หลังจากการเจรจากับแมคคาร์ทนีย์อย่างยืดเยื้อ กลุ่มบริษัทสินค้าหรูหราของอิตาลี Gucci (เป็นเจ้าของโดย PPR [ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Kering]) ประกาศว่าจะเข้าร่วมในกิจการร่วมค้าเพื่อเปิดตัวฉลากดีไซน์ใหม่ที่ผลิตภายใต้ชื่อของแมคคาร์ทนีย์ ตามความต้องการของ McCartney แบบวีแกน ไม่ใช้หนังหรือขนสัตว์
ทั้งสององค์ประกอบหลักของการออกแบบสำหรับ Gucci—จะต้องถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ McCartney เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นแรกของเธอ Stella ในปี 2003 เธอเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวออร์แกนิกในปี 2007 และคอลเลคชันเสื้อผ้าสำหรับเด็กชุดแรกของเธอ
(สำหรับผู้ค้าปลีก Gap Inc.) ในปี 2009 ต่อมา McCartney ได้ออกแบบเครื่องแบบที่สวมใส่โดยนักกีฬาที่เป็นตัวแทนของ Great สหราชอาณาจักรในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกที่ลอนดอน 2012 ในปี 2018 เธอได้สร้างชุดรับแขกที่เมแกน มาร์เคิลสวมหลังจากพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี
นอกจากนี้ ในปี 2018 McCartney ยังกลายเป็นเจ้าของสายงานของเธอแต่เพียงผู้เดียวหลังจากเข้าซื้อหุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ของ Kering ในธุรกิจนี้ อย่างไรก็ตาม ในปี 2019 เธอได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับ LVMH Moët Hennessy–Louis Vuitton ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าหรูหราที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลง เธอยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่ในแบรนด์ของเธอ
กระเป๋าหนังวีแกนกับสายโซ่รีไซเคิลลดปัญหาขยะอินทรีย์
หนังวีแกน เส้นใยสับปะรด เศษเนื้อมะม่วง-แอปเปิ้ล เห็ดกินไม่ได้บางชนิด กากองุ่น กระบองเพชร เส้นใยกล้วย ปอ กัญชา ใบไม้บางชนิด น้ำมะพร้าว ฯลฯ ผ่านนวัตกรรมขั้นสูงเพื่อผลิตเป็นหนังที่มีรูปลักษณ์คล้ายหนังสัตว์ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาขยะอินทรีย์ นักออกแบบบางคน (อย่าง Stella) ถึงกับเรียกร้องหนังวีแกน ที่ปลูกแบบออร์แกนิคด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ Stella ยังเลือกใช้ อลูมิเนียม รีไซเคิล เพื่อผลิตสายโซ่คล้องกระเป๋า และมีน้ำหนักเบาเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน วัสดุที่เป็นโลหะเลือกชนิดที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว วัสดุที่เป็นเส้นใยตาข่ายใช้ตาข่ายเก่าจากอวนจับปลา เป็นต้น
ความพยายามที่จะไม่สร้างของเสียให้แก่ธรรมชาติ ของ Stella McCartney เริ่มต้นตั้งแต่ปีที่ก่อตั้งแบรนด์ ทุกวันนี้คอลเลคชั่นเสื้อผ้า-เครื่องหนัง ไม่ใช้วัสดุที่ทำลายโลก ถ้าไล่ไทม์ไลน์ของแบรนด์เริ่มตั้งแต่
ปี 2001 : ประกาศไม่ใช้หนังสัตว์ และขนสัตว์เฟอร์ (Fur – ขนกระต่าย ขนมิงค์ ขนแกะ) อย่างสิ้นเชิง
2008 : ใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิค
2010 : ไม่ใช้หนัง PVC (หนังสัตว์เทียมผลิตจาก Polyvinychloride)
2012 : ใช้วัสดุ Bio-acetate สำหรับผลิตแว่นตา, ใช้วัสดุโพลีเอสเตอร์ รีไซเคิล
2013 : เลิกใช้ขนแพะ Angora และเลือกใช้หลอดไฟ LED ในช็อปในทุกประเทศ
2014 : ใช้กระดาษและบรรจุภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืน
2016 : เลือกใช้ผ้าวิสโคสที่ผลิตอย่างยั่งยืน 100%
2017 : ใช้เส้นใย Microsilk™ และไนล่อนรีไซเคิล Econyl ®
2018 : เลิกใช้ขน Mohair (เส้นใยจากแพะ Angora) และไม่ใช้พลาสติกอย่างสิ้นเชิง, แนะนำกระเป๋า Bold Thread’s Mylo™ ผลิตจากหนังเห็ด
2019 : ร่วมมือกับแบรนด์ Adidas ใช้เส้นใย Evrnu’s Nucyle™ (เส้นใยจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล และเส้นใยจากพลาสติก Plant-based) ผลิตรองเท้าผ้าใบ Stan Smith ทำจาก “หนังวีแกน” และร่วมมือกับผู้ผลิตเส้นใยใช้แทนขนเฟอร์ KOBA® Fur Free Fur (ขนสัตว์เทียมจากเส้นใยพืชซึ่งสามารถนำไปรีไซเคิลได้)
2020 : ประกาศใช้ผ้าเดนิม Coreva™ (เส้นใยเดนิมที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ) ที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบ biodegradable, ออกแบบชุดชั้นใน-ชุดว่ายน้ำผลิตจากเส้นใยไนล่อนรีไซเคิล, ผลิตเสื้อนิตผ้าวูลแบบ ZQ (โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล)
ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> ดูหนังออนไลน์
บทความอื่น ๆ ที่แนะนำ >> ดีไซเนอร์คนไทย