Balenciaga ส่องจุดเริ่มต้นของ แบรนด์แฟชั่นสุดหรู ที่นาทีไม่มีใครไม่รู้จัก
Balenciaga (บาเลนเซียก้า) รู้จักกับประวัติแบรนด์แฟชั่น ชั้นสูงบอกเลยว่าหรูใน แบบระดับโอต์กูตูร์ โดยที่มีประวัติอันยาวนานมามากกว่า 100 ปี โดยจะมีเอกลักษณ์สุด เฉพาะของตัวเอง ที่จะมีการออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบ ที่ไม่ว่าจะออกมาในแฟชั่นโชว์สักกี่ครั้ง ก็ได้ทำเป็นที่สนอกสนใจ ของสายแฟได้ดีจริงๆนะ เพราะว่าการดีไซน์ของเขา ที่เน้นศิลปะมากกว่า ความหรูหราสมัยใหม่ ที่จะตอบโจทย์ สำหรับสังคมยุคปัจจุบัน ที่จะมีการออกแบบ กลับรูปทรงที่ดูน่าสนใจ และแปลกตาสำหรับใครหลายๆคน บอกเลยว่าสำหรับแฟชั่นไม่มีความจำกัดอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างมันคือศิลปะที่ทาง บาเลนเซียก้า นั้นต้องการ แถมยังมาพร้อมกับ ที่จะมีทักษะตัดเย็บ อย่างซับซ้อนที่จะมาจากช่าง โดยที่มีฝีมือมากประสบการณ์ แถมยังคงได้เป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่น โอตกูตูร์ ซึ่งสำหรับเสื้อผ้าที่เขาออกแบบนั้นก็ แทบจะไม่มีนิยามของคำความน่ารัก หรืออ่อนหวานเลยทีเดียวเชียว
จุดเริ่มต้นของ Balenciaga กับผู้ก่อตั้งแบรนด์
สำหรับแบรนด์ดังอย่าง บาเลนเซียก้า นั้นได้มีจุดกำเนิดจาก คริสโตบาล บาเลนเซียกา Cristóbal Balenciagaเขานั้นก็ได้ เกิดเมื่อ 21 มกราคม ปี 1895 เมืองกานาเรีย ประเทศสเปน และเขานั้นก็ได้เป็นผู้ให้ กำเนิดแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Balenciagaที่เขานั้นได้เป็น ผู้ออกแบบเอง
ซึ่งสำหรับเขานั้น ก็ถือว่าเป็นนักออกแบบ ที่ได้เป็นถึงนักออกแบบแฟชั่น กูตูริเยร์ในตำนาน โดยเขาเองก็เป็นถึงผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ ระดับโลกอย่าง Balenciagaที่เรานั้นก็ คงรู้จักกันดีอยู่แล้ว กับชื่อแบรนด์สุดคุ้นหู บอกเลยว่าหลายๆคนใน วงการแฟชั่นโอตกูตูร์ต่างชื่นชม
และรอคอยผลงาน ของเขากันอย่างต่อเนื่อง กับผลงานสุดพิเศษของเขา ที่จะออกมาในแต่ะครั้ง เพราะผลงานการดีไซน์ของเขาสุดเป็นเอกลักษณ์ ที่ต้องบอกเลยว่า ไม่มีผลงานไหนที่ไม่ประทับใจ และไม่มีทางที่จะไม่เป็นที่ฮือฮาอย่างแน่นอน เพราะทุกผลงานของเขา ได้สร้างความตื่นเต้น ให้แก่คนที่รอคอยเสียจริง
และสำหรับ Cristóbal Balenciagaก็ได้มาจาก ครอบครัวที่มีการตัดเย็บเสื้อผ้าแค่นั้นเอง โดยเขาเองก็ได้มีมีพ่อเป็นชาวประมง แต่ทว่าโชคชะตาไม่เป้นใจ ที่ท่านนั้นได้มาเสียชีวิต ทั้งแต่เขานั้นยังเด็กๆ แต่ทว่าเขาเองนั้นจึงได้ซึบซับและค่อยๆ เรียนที่จะเริ่มรู้การตัดเย็บ จากการแม่เขานั้นที่ได้เป็นช่างตัดเย็บผ้านั่นเอง
และเส้นทางของเขาในการ ออกแบบก็ได้มีการเริ่มต้นขึ้น เมื่อเขานั้นได้มีโอกาว ที่จะได้เข้าไปเรียนรู้ เกี่ยวกับงานแฟชั่น และในเรื่องของการตัดเย็บกับ มาร์เกซ่า เด กาซ่า ตอเรซ (Marquesa de Casa Torres) ที่เป็นถึง สตรีชั้นสูง ซึ่งเธอนั้นก็ได้เป็น ลูกค้าประจำของ ตระกูลบาเลนเซียก้าทีเดียว
แถมเธอเองก็ได้เป็น คนที่เข้ามาให้คำแนะนำ โดยนอกจากนี้เธอเองก็ได้เข้าไป เพื่อที่จะเป็นผู้ชวยฝึกหัด ที่อยู่ภายใน ร้านตัดเสื้อย่าน San Sebastián โดยสำหรับพื้นที่นี้ ก็ได้เป็นย่านที่พักตากอากาศ ซึ่งสำหรับพื้นที่ตรงนี้นั้นก็ถือว่าเป็นพื้นที่ ที่จะมีชื่อเสียงที่เต็มไปด้วย เหล่าคนชนชั้นสูงของ สเปนมาท่องเที่ยวกันซะส่วนมาก
และก็ยังคงที่จะมีร้านเสื้อผ้า ที่มีความทันสมัยมากมาย ที่ตัวเขาเองนั้น ได้มีการเรียนรู้ เพื่อที่จะได้ก้าวมาเป็นเจ้าของแบรนด์สุดหรู ที่งานนี้ต้องบอกเลยว่า สำหรับตัวเขาเองที่คลุกคลี และได้เห็นความหลากหลาย การแต่งกายของเหล่าชนชนั้นสูง ทำให้เขาได้พัฒนา และฝึกฝีมือของตนเองได้ดี
ก้าวเข้าสู่ความประสบความสำเร็จก้าวแรก กับร้านบูติกของBalenciaga
และต่อมาใน ปี 1917 เขานั้นก็ได้เริ่มที่จะเปิดร้านบูติก ที่เป็นร้านของตัวเองแห่งแรกขึ้นมา โดยเขานั้นก็มีการใช้ชื่อ ที่เรารู้จักกันดีอย่าง “Balenciaga” ที่อยู่ในย่าน ซาน เซบาสเตียน (San Sebastián) และเขานั้นเองก็ได้มีการขยายเพิ่มไปอีกถึง 2 สาขาด้วยกัน ในกรุงมาดริด และบาร์เซโลนา
ต่อมาในปี 1931 ที่จะมีสภาพสังคม ของประเทศสเปน ในขณะนั้นก็ไม่ค่อยดีนัก เพรราะว่ามีการเกิดภาวะสงครามกลางเมือง จึงทำให้เขาเองก็ต้องปิดทั้ง 3 สาขาลงอย่างปฎิเสธไปไม่ได้ และก็มีการย้ายถิ่นฐานมายัง ประเทศฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
แต่เขาไม่มีความย่อท้อ และยอมแพ้ซึ่งเขา ปี 1937 เขาก็ได้เปิดร้านบูติกใหม่อีกครั้ง ในนครปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะมีที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางถนน ฌอร์ฌ-แซงก์ (Avenue George V) และด้วยความโดดเด่นของเขาเอง นั้นก้คือ สไตล์การออกแบบของเขา ที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ทำให้แฟชั่น ไม่เสื่อมสลายไปเลยทีเดียว
เพราะตัวเขาเอง ก็ได้รับแรงบันดาลใจ ที่ได้มาจากผลงานศิลปะแบบ Abstract โดยจะเป็นวัฒนธรรมการ เเต่งกายของชาวสเปนในอดีต ที่ได้ทำให้เขานั้นเริ่มผลิตเสื้อผ้า ที่มีลักษณะเหมือน กับงานประติมากรรม มีรูปทรงแปลกตาอย่าง น่ามหัศจรรย์ใจเสียจริง
แถมอีกแรงบันดาลใจ ที่เขานั้นได้เอามาร่วมกับงานออกแบบ ก็ได้มาจากนักบุญ ของศาสนาคริสต์ และเหล่าเซนต์หรือทวยเทพ โดยการส่วนตัวของBalenciaga นั้นก็ได้เป็นชาวคริสต์คาทอลิก ที่มีความเคร่งครัดในเรื่อง ศาสนาเป็นอย่างมาก
และก็ได้มีการบันทึกเอาไว้ด้วยว่า เขานั้นก็จะมักแวะเข้าไป สวดมนต์ที่โบสต์ถึง 2 ครั้งต่อวันอยู่เสมอเลยทีเดียว นั้นก็จะได้รูปทรงการออกแบบ ที่ทำให้ตัวเขาเองนั้นโด่งดัง นั้นก็คือ รูปทรงเสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่จะมีความซับซ้อน แต่ถ้าหากมองตาเปล่า ก็จะกลับให้ความรู้สึกเรียบง่าย ใส่สบาย ไม่เทอะทะ ที่สำคัญก็ยัง มีน้ำหนักเบาอีกด้วย
ผลงานสุดโดดเด่น กับการดีไซน์ที่ทำให้ วงการแฟชั่นต้องสะเทือน
สำหรับผลงานสุดโดดเด่น ที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก กับเอกลักษณ์สุดโดดเด่นของเขานั้นก็คือ งานดีไซน์ที่มาในชุดกระโปรงผ้าไหมกาซาร์ดดยจะทำให้หลายๆคน นั้นจะต้องตะลึงกับผ้าคลุมไหล่ ที่มีความสามารถปรับขึ้นลงได้ โดยสำหรับผลงานของBalenciaga ชิ้นนี้
ก็ได้มีการออกแบบ ที่จะมีการเริ่มจากเขานั้นได้ เลือกผ้าที่จะให้ตัดมาดีไซน์ โดยจะให้ได้รูปทรงที่เข้ากับ ชิ้นผ้า มากกว่าการออกแบบชุด แล้วก็จะค่อยหาผ้ามาตัดเย็บ ซึ่งสำหรับในส่วนนี้นั้น ก็ได้ทำให้ชุดของเขา มีดีไซน์มีรูปทรงที่แปลกตาราว กับงานประติมากรรมมากจริงๆ
แถมนอกเหนือจากชื่อเสียง ในด้านการออกแบบเสื้อผ้าแล้ว สำหรับตัวของBalenciaga เองนั้นก็มีชื่อเสียงในเรื่องของการที่เขานั้น ไม่ชอบเข้าสังคมเช่นกัน จนถึงขั้นว่าเขานั้นได้มีข่าวลือ ในเรื่องที่ว่าเขานั้น ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง เพราะเขาเองไม่เคย คิดที่จะปรากฏตัว ในตอนจบของแฟชั่นโชว์เลย
และไม่เคยพบปะลูกค้า แม้กระทั่งตอนที่ ลูกค้าของเขานั้น ได้เข้ามามาลองเสื้อที่ร้าน เพราะมักจะต่างจากนักออกแบบ โอตกูตูร์คนอื่นๆ ที่เขานั้นก็จะมักปรากฏตัว ให้สื่อได้เห็นอย่าง คริสเตียน ดิออร์ หรือว่า โคโค่ ชาแนลแต่Balenciaga นั้นก็ได้เคยให้สัมภาษณ์ กับสื่อเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
และเขายังเคยแบนไม่ให้สื่อได้เห็น หรือว่าการถ่ายรูปสินค้า จนกว่าลูกค้าของเขานั้นจะได้เห็นก่อน โดยจะใช้เวลาถึงหนึ่งเดือน แถมนอกจากนี้แล้ว เขาเองก็ยังได้ออกมาเล่าเปิดใจกับ กุสตาฟ ซุมสเตก (Gustav Zumsteg) ที่เป็นถึงเจ้าของ ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม Abraham จากสวิสเซอร์แลนด์
โดยมีเนื้อหาใจความ เอาไว้ว่า “อย่าเสียเวลากับเรื่องเข้าสังคม” โดยสำหรับเขานั้นก้คง หมายถึง การที่จะไม่เข้าไปยุ่ง กับเรื่องซุบซิบนินทา ที่ไร้สาระของวงการแฟชั่น โดยจะให้หันมาสนใจ และพัฒนาผลงานการดีไซน์ของตนเองจะดีกว่า
และแบรนด์ Balenciaga ก็ต้องถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะได้เป็นห้องเสื้อโอตกูตูร์ ที่มีทั้งราชวงส์ เหล่าขุนนางชนชั้นสูง ที่จะมีการเดินทางมาตัดชุด กับทางแบรนด์อย่างล้นหลาม แต่ด้วยความนิยมของแฟชั่นที่เริ่มมีความเปลี่ยนไป
ในช่วงกลางปี 1960 สำหรับกระแสแฟชั่นวัยรุ่น ตามท้องถนน ก็ได้ทำให้เสื้อผ้าแบบ ready-to-wear ได้มาเป็นที่นิยมมากกว่า เสื้อผ้าสไตล์โอตกูตูร์ชั้นสูง นั้นก็ได้ทำให้ Balenciagaก็ตัดสินใจ ปิดห้องเสื้อลงในปี 1968และได้ออกจากวงการแฟชั่น อย่างถาวรด้วยวัย 74 ปี ซึ่งก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในวันที่ 23 มีนาคม 1972 ที่ประเทศสเปน บ้านเกิดของเขาเอง
แหล่งอ้างอิงข้อมูล : https://style.katexoxo.com/
ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เว็บดูบอลสดฟรี
แบรนด์อื่นๆ ที่แนะนำ >> Givenchy