Brand name fashion updates
Brand Name เปิดแบรนด์ที่หลายๆท่านนั้นจะต้องรู้จัก มีติดตัวแล้วปังแน่นอน
Brand name fashion updates
Brand Name เปิดแบรนด์ที่หลายๆท่านนั้นจะต้องรู้จัก มีติดตัวแล้วปังแน่นอน

Nike Cortez รองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิคที่กลายเป็นอมตะเพราะภาพยนตร์

Nike Cortez

Nike Cortez รองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิค กลายเป็นอมตะเพราะภาพยนตร์

Nike Cortez ต่อให้ใครที่ไม่ใช่คอหนัง หรือไม่ได้คลุกคีอยู่กับวงการหนัง เชื่อว่าใครหลายคนคงจะทราบดี ในวลีอมตะ “”LIFE IS LIKE A BOX OF CHOCOLATES, YOU NEVER KNOW WHAT YOU GONNA GET.” ที่มาจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่ไม่ใช่แค่เป็นเจ้าของรางวัลออสการ์ 6 สาขา นั่นก็คือ Forrest Gump หรือ อัจฉริยะปัญญานิ่ม หนังจากปี 1994 ผลงานของ โรเบิร์ต เซเม็ก

ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ ยังคงทรงอิทธิพลในหลายด้าน ด้วยความที่ Forrest Gump เป็นหนังที่ได้นำเสนอมุมมอง แบบชาตินิยมอเมริกัน อย่างชัดเจนตรงไปตรงมา เป็นเรื่องราวการผจญภัยของผู้ชายจิตใจดี นามว่า ฟอเรสต์ กั๊มป์ เรื่องนี้ก็ได้เข้าไปนั่งในใจของเหล่าอเมริกันชนไปเรียบร้อย ส่งผลให้สิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฎในภาพยนตร์ก็ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย

หนึ่งในนั้นก็คือ รองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิคอย่าง ไนกี้ คอร์เทส ซึ่งในเรื่องเป็นรองเท้าที่มีความหมายต่อ ฟอเรสต์ กั๊มป์ เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้รองเท้ารุ่นนี้ขึ้นหิ้งเป็นรองเท้าอมตะไม่มีวันตาย

ประวัติความเป็นมาของรองเท้า Nike Cortez

รองเท้าไนกี้ที่เกิดก่อนไนกี้? โลกรู้จักชื่อ ไนกี้ ในฐานะบริษัทผลิตจัดหน่ายอุปกรณ์กีฬาเป็นครั้งแรกในปี 1971 แต่อย่างไรก็ตาม ความเป็นมาของรองเท้ารุ่น ไนกี้คอร์เทส ต้องย้อนกลับไปไกลกว่านั้นมาก ตั้งแต่ยุค 60s เลย ที่ บิลล์ บาวเวอร์แมน (Bill Bowerman) และ ฟิลล์ ไนท์ (Phil Knight) สองผู้ก่อตั้ง Nike เพิ่งเริ่มทำบริษัทที่ชื่อว่า Blue Ribbon Sports ได้ไม่นาน ธุรกิจหลักของบริษัทนี้คือการนำเข้า ร่วมผลิต และออกแบบรองเท้ากีฬาจากประเทศญี่ปุ่น โดยร่วมมือกับแบรนด์ชื่อดังอย่าง Onitsuka Tiger

ในเดือนสิงหาคมปี 1966 Blue Ribbon Sports ได้สั่งซื้อรองเท้ารุ่น TG-24 จาก Onitsuka Tiger มาในจำนวน 300 คู่ ก่อนจะนำมาออกแบบเพิ่มเติมและจัดจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาในชื่อ “TG-24/Shoe designed by Bill Bowerman w/Mexico Line” ซึ่งถึงแม้ชื่อจะฟังดูยาวเหยียดเหมือนซอยเข้าบ้าน แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ารองเท้ารุ่นนี้สามารถตีตลาดในแผ่นดินลุงแซมได้กระเจิง 300 คู่ที่สั่งมาล็อตแรกขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนที่ Blue Ribbon Sports จะสั่งเพิ่มมาอีกเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดเมื่อปี 1966 ผ่านพ้นไป รองเท้ารุ่นนี้ก็ลงเอยด้วยการขึ้นแท่นเป็นรองเท้ากีฬาขายดีประจำปี

“เสือจะล่าเหยื่อได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อมันหิว” บิลล์ บาวเวอร์แมน ได้กล่าวเอาไว้ ก่อนจะเสริมต่อว่าสาเหตุที่ TG-24/Shoe designed by Bill Bowerman w/Mexico Line ขายดีเป็นเทนน้ำเทท่าก็เพราะรูปทรงการออกแบบที่สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์ ในพื้นรองเท้าชั้นกลางมีโฟมนุ่มช่วยรองรับแรงกระแทก ดังนั้นทุกฝีก้าวที่ผู้สวมใส่ย่างออกไปจึงพริ้วไหวและเฉียบคมไม่ต่างอะไรจากเสือโหยล่าเหยื่อ

ในปี 1967 หลังจากที่ TG-24/Shoe designed by Bill Bowerman w/Mexico Line ประสบความสำเร็จ ทาง Blue Ribbon Sports ก็อยากจะต่อยอดให้มันดียิ่งขึ้น โดยพวกเขาเชื่อว่าถ้าทำให้ชื่อของมันกระชับกว่านี้น่าจะส่งผลดีต่อยอดขาย ดังนั้นพวกเขาจึงตัดทอนชื่อที่ยาวเหยียดแบบเดิมออก เหลือไว้แค่เพียง TG-24 Mexico เท่านั้น

แน่นอนว่าแรงบันดาลใจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็คืองานมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1968 ที่จะจัดขึ้น ณ ประเทศเม็กซิโกนั่นเอง อย่างไรก็ตามหลังจากเปลี่ยนชื่อได้ไม่นาน พวกเขาก็เกิดไอเดียใหม่ขึ้นมาอีกว่าชื่อ Mexico ยังฟังดูไม่น่าดึงดูดพอ เปลี่ยนเป็น Aztec ซึ่งมีความหมายถึงอาณาจักรโบราณ ที่ตั้งอยู่ในประเทศเม็กซิโก น่าจะฟังดูเข้าท่ากว่า

น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วไอเดียการเปลี่ยนชื่อเป็น Aztec ก็จำเป็นต้องล่มไปอีกครั้ง เนื่องจากมันฟังดูคล้ายกับชื่อรองเท้ารุ่น “Azteca Gold” ของแบรนด์ adidas มากเกินไปจนอาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาข้อกฎหมาย รองเท้ารุ่น Aztec จึงไม่เคยเกิดขึ้น

หลังจากผ่านการระดมสมอง ในที่สุดพวกเขาก็ลงเอยกับชื่อรุ่น Cortez ซึ่งมาจากชื่อของ “Hernán Cortés” วีรบุรุษผู้พิชิต Aztec ที่ถึงแม้จะไม่เคยมีการออกมาพูดอย่างเป็นทางการ แต่มันก็ค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขาต้องการเสียดสี adidas และกวนโอ๊ยเบา ๆ ด้วยการบอกว่า “รองเท้าพวกข้าเจ๋งกว่านะ”

คอร์เทส กลายเป็นเป็นรองเท้าขายดีที่สุดตลอดกาลของ Blue Ribbon Sports

TG-24 Cortez ผงาดขึ้นเป็นรองเท้าขายดีที่สุดตลอดกาลของบริษัท Blue Ribbon Sports ได้ภายในระยะเวลาไม่นาน เรียกได้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวทั้ง บริษัทของ บิล และ ฟิลล์ และ Onitsuka Tiger ต่างก็จับมือกันกวาดเงินเข้ากระเป๋าได้เป็นกอบเป็นกำ

ต่อมายุค 70s Blue Ribbon Sports กับ Onitsuka Tiger ก็เริ่มมีปัญหาไม่ลงรอยกัน ก่อนที่ในปี 1971 Blue Ribbon Sports จะเปลี่ยนชื่อเป็น Nike พร้อมทั้งขยายรูปแบบธุรกิจ จากแค่นำเข้ารองเท้า กลายเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอย่างเต็มตัว

รองเท้ารุ่นแรกภายใต้ชื่อ Nike ก็คือรุ่น NikeCortez ส่วนฝั่งแบรนด์จากแดนญึ่ปุ่นก็ได้เปลี่ยนชื่อจาก TG-24 Cortez เป็น Tiger Cortez โดยต่างฝ่ายต่างก็มุ่งขายสินค้าของตัวเองไป และถึงแม้จะมีชื่อที่เหมือนกัน ในส่วนของรายละเอียดรูปลักษณ์ก็มีส่วนที่แตกต่างกันอยู่บ้าง

แต่แล้วสงครามการค้า ย่อมกลายเป็นเรื่องใหญ่ ถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาล และในที่สุดกลังจากยืดเยื้อกันมากว่า 3 ปี ในปี 1974 ศาลของประเทศสหรัฐอเมริกาก็ตัดสินให้ชื่อ Cortez อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท Nike ส่งผลให้หลังจากนั้น Tiger Cortez จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Tiger Corsair แต่มันก็ไม่ได้กระทบเรื่องยอดขายเท่าไร เพราะ Tiger Corsair ก็ยังเป็นรองเท้ารุ่นขายดีประจำแบรนด์สืบต่อมา

Tiger Corsair
Tiger Corsair

หลังจากนั้น NikeCortez ก็ได้รับการพัฒนาปรับปรุงเรื่อยมา โดยมีโมเดลใหม่ ๆ ออกมาวางจำหน่ายอย่างไม่ขาดสาย เช่นในปี 1975 กับ Nike Nylon Cortez ที่ต้องการชูจุดเด่นเรื่องเส้นใยไนล่อนน้ำหนักเบา, ปี 1976 กับ Senorita Cortez ที่ต้องการทำให้รองเท้ารุ่นนี้ตีตลาดผู้หญิงได้มากยิ่งขึ้นด้วยรูปทรงที่บอบบางกว่าเดิม

รองเท้า NikeCortez ขึ้นหิ้งกลายเป็นรองเท้าอมตะตลอดกาลได้อย่างไร?

สิ่งสำคัญที่ทำให้รองเท้า Nike Cortez กลายเป็นสนีกเกอร์อมตะตลอดกาล เกิดขึ้นหลังจากผ่านยุค 80s ไปแล้ว นั่นก็คือการกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์ โดยเฉพาะการปรากฎอยู่ในหนึ่งในภาพยนตร์ขวัญใจอเมริกันชน Forrest Gump แต่ก่อนจะไปถึงภาพยนตร์ Forrest Gump ที่มาเกิดขึ้นในช่วงยุค 90s เราขอพาทุกคนไปดูที่ยุค 80s กันก่อน เพราะทางไนกี้เองก็มีบทบาทสำคัญในยุคนี้ไม่แพ้กัน

ใครที่เป็นแฟนเพลงยุคเก่าอย่างยุค 80s จะทราบดีว่า เอลตัน จอห์น (Elton John) นั่นโด่งดังมากแค่ไหน แม้จะไม่ได้รับยศเป็นท่านเซอร์เหมือนเช่นปัจจุบัน แต่บทเพลงของเขาในยุคนั้นก็พากันติดชาร์ตทุกครั้งที่มีปล่อยออกมา ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าเขาคือศิลปินที่ยิ่งใหญ่ในยุคนั้นก็ไม่ผิด และด้วยความที่เอลตัน จอห์น เคยซื้อสินค้า Nike ด้วยจำนวนเงินสูงถึง 14,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นั่นก็ทำให้ เอลตัน จอห์น กับ Nike ก็เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีซึ่งกันและกันมาตลอด

เอลตัน ถึงกับขนาดเคยแต่งเพลง Good Friend at Nike เพื่อเล่าถึงมิตรภาพที่ดีรงามระหว่างเขากับแบรนด์นี้ และระหว่างที่ร้องเพลงพลางเล่นเปียโนอยู่นั้น เขาก็ได้ยกเท้าขึ้นมาพาดกับเปียโน เพื่อโชว์ให้ทุกคนได้เห็นชัด ๆ ว่ารองเท้าที่เขาสวมใส่อยู่คือ Nike Cortez นั่นเอง

ถึงแม้จะไม่เคยเป็นฑูตทางการค้าอย่างเป็นทางการ แต่ความสัมพันธ์แบบเกื้อหนุนช่วยเหลือกันระหว่าง เอลตัน จอห์น กับ Nike ก็ยังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน

Forrest Gump (1994)

มาที่ยุค 90s กันบ้าง ภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump ที่เข้าฉายในปี 1994 โดยเล่าเรื่องราวการผจญภัยของ “ฟอเรสต์ กั๊มป์” (แสดงโดย ทอม แฮงค์ส) ชายหนุ่มที่เกิดมาพร้อมกับระดับไอคิวเพียงแค่ 75 ที่ถือว่าต่ำมาก ๆ อย่างไรก็ตามด้วยชะตาชีวิตที่ลิขิตไว้ ทำให้เขาได้พบเจอกับเรื่องราวสุดมหัศจรรย์มากมาย ตั้งแต่เข้าร่วมรบสงครามเวียดนาม ไปจนถึงการวิ่งรอบประเทศสหรัฐอเมริกา

Nike Cortez
Nike Cortez

หนึ่งในฉากประทับใจที่สุดของเรื่อง คือฉากที่ตัวละคร “เจนนี่ เคอร์แรน” (แสดงโดย โรบิน ไรท์) ซึ่งเป็นรักแรกและรักเดียวของ ฟอเรสต์ ได้มอบของขวัญชิ้นสำคัญให้เขา นั่นคือรองเท้า NikeCortez สีขาว โลโก้ Swoosh สีแดง แซมแถบสีน้ำเงิน โดยของขวัญชิ้นนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจครั้งยิ่งใหญ่ให้กับ ฟอเรสต์ ราวกับว่าเขาได้ปลดล็อกพันธนาการภายในจิตใจ และต่อมามันก็ได้ชักนำเขาไปสู่การวิ่งทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 ปี

คงไม่ต้องเล่าว่าภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump ประสบความสำเร็จมากแค่ไหน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกมากเพียงใด เรียกได้ว่ามีคนจำนวนนับล้านทั่วโลกที่หลงรักทุกองค์ประกอบของภาพยนตร์เรื่องนี้ ส่งผลให้รองเท้า NikeCortez ได้รับความรักนั้นไปด้วย และหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็พูดได้เต็มปากว่า NikeCortez คือรองเท้าคลาสสิคขึ้นหิ้งอมตะตลอดกาลของแบรนด์ Nike เป็นที่เรียบร้อย

มีรายงานว่าหลังจากที่ Forrest Gump เข้าฉาย ยอดขายของ NikeCortez ในปีดังกล่าวทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาก็สูงขึ้นถึง 40% นี่ยังไม่นับรวมทั่วโลกทั้งโลก เรื่องนี้บอกได้อย่างชัดเจนว่า ภาพยนตร์บางเรื่องที่ทำออกมาได้อย่างตราตรึงใจผู้คนสามารถทำให้แบรนด์สินค้าบางแบรนด์กลายเป็นของที่หลาย ๆ คนต้องมีไว้ครอบครอง เพราะมันเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนอย่างดี

แหล่งอ้างอิงข้อมูล : แทงบอลออนไลน์

ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> ดูซีรี่ย์

บทความอื่น ๆ ที่แนะนำ >> แบรนด์เนมยอดนิยม