Virgil Abloh เปิดประวัติ ดีไซน์เนอร์ผู้ล่วงลับ คนสำคัญของวงการแฟชั่นโลก

Virgil Abloh ดีไซน์เนอร์ผู้ล่วงลับ ผู้ปลุกกระแสเทรนด์ คนสำคัญของวงการแฟชั่นโลก

Virgil Abloh ในช่วงนี้ หากว่าเราสังเกตกันดี ๆ จะรู้ว่า หนึ่งในเทรนด์ ที่กำลังมาแรงอย่างมากใน วงการแฟชั่น ก็คือ กระแสสตรีตแวร์ และแบรนด์เสื้อผ้าประเภทที่เกี่ยวข้องกับ วัฒนธรรมสเก็ตบอร์ด ก็ถูกนำมาสวมใส่ ควบคู่ไปกับแบรนด์หรูไฮเอ็นท์ ชื่อดัง ๆ ต่าง ๆ พอสมควร

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด จากทั้ง Fashion Week และ Men’s Fashion Week ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งหลาย ไม่ว่าชายหรือหญิง ต่างพร้อมใจกันใส่มาอวดกัน ตั้งแต่เมื่อต้นปีจนถึงครั้งล่าสุดเร็ว ๆ นี้

กระทั่งล่าสุด เหล่าบรรดานักสเก็ตบอร์ดทั้งหลาย ถึงได้พากันออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความเกร่อของเทรนด์แฟชั่นดังกล่าว ว่ากำลังบ่อนทำลายวัฒนธรรมอันสุดเท่ของพวกเขา เพราะทุกคนที่ไม่ใช่นักสเก็ตบอร์ดต่างหยิบจับ แบรนด์สเก็ตบอร์ด มาสวมใส่มากจนเกินไป

พูดไม่ได้เต็มปากว่า ผู้ชายคนนี้คือคนที่ปลุกกระแสเทรนด์นี้ขึ้นมา เพราะอย่างน้อย เขาก็เป็นหนึ่งบุคคลสำคัญของ Street Fashion Scene ในยุคปัจจุบัน และเป็นผู้ที่พยายามผลักดันวัฒนธรรม Youth Culture ให้กลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการแฟชั่น ทั้งยังผลักดันให้ Scene เข้ามามีบทบาทในโลกของ High Fashion ในวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเขามากขึ้น

ความเป็นมาของ Virgil Abloh กับเส้นทางของการเป็นดีไซน์เนอร์

เวอร์จิล แอบโลห์ จบปริญญาตรีสาขา Civil Engineering และปริญญาโทสาขา Architecture ต้องบอกว่าเขาไม่ได้มีเส้นสาย หรือมีทักษะในด้านแฟชั่นมาตั้งแต่แรกเลย แต่ด้วยความชอบ และการมีวิสัยทัศน์ของเขา ทำให้แอบโลห์ก้าวเข้าสู่โลกของแฟชั่นครั้งแรก ในปี 2002 ด้วยการเป็น Creative Director และ Stylist ให้กับ Kanye West

ต้องบอกก่อนว่า เพราะความโชคดีที่เขาเกิดและโตที่ชิคาโก บ้านเกิดเดียวกับ West ทำให้ทั้งสองคนเป็นคนรู้จักกัน แต่นั้นก็ไม่ใช่ความโชคดีอย่างเดียวแน่นอน เพราะว่า West ไว้วางใจขนาดที่ว่าให้ แอบโลห์ มาเป็น Creative Director ประจำตัวของเขา เพียงผู้เดียวจนถึงปัจจุบันนี้ อาจพูดได้เลยว่าตอนนั้น นักร้องดังอย่างเขาคงมองเห็นศักยภาพบางอย่างในตัวแอบโลแน่ ๆ

แอบโลห์ คอย ๆ สะสมประสบการณื จนในปี 2009 เขาก็ได้เข้ามาในวงการแฟชั่นในขั้นต่อไป เมื่อเขาตัดสินใจเปิดร้านมัลติสไตร์ RSVP Gallery ที่เมืองชิคาโก คู่กับหุ้นส่วนของเขา และในปี 2011 ผลงานการออกแบบหน้าปกอัลบั้ม Watch The Throne ของ Jay-Z และ Kanye West ที่เขาทำร่วมกับ Riccardo Tisci ดีไซเนอร์ชื่อดังแห่ง Givenchy ก็ได้เข้าชิง Grammy Award สาขา Best Recording Package

ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่โลกแฟชั่นอย่างเป็นทางการในปี 2012 กับโปรเจคที่มีชื่อว่า Pyrex Vision โดยสาเหตุที่เขาเรียก Pyrex Vision ว่าเป็นโปรเจคก็เนื่องจากงานชิ้นนี้ไม่ใช่งานออกแบบเต็มตัว แต่เป็นงานออกแบบเชิงทดลองเสียมากกว่า โดยจะมีการนำเสื้อเชิ้ตที่สกรีนนั้น เป็นเสื้อเชิ้ตสต๊อกเก่าเก็บของ Rugby Ralph Lauren และกางเกงขาสั้นนั้นก็มาจาก Champion

ณ ขณะนั้น แอบโลห์ เริ่มเป็นที่สนใจของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้าหลาย ๆ คน ด้วยอานิสงของ Kanye West และบรรดาแร็ปเปอร์ รวมถึงเซเลบริตี้หลาย ๆ คนที่สวมใส่เสื้อผ้าของเขา และด้วยความลิมิเต็ต อันเนื่องมาจากการผลิตที่ทำออกมาจำนวนจำกัดมาก ทำให้หลายๆคนตามล่าเพื่อที่จะมีไว้ในครอบครองด้วย

หนึ่งปีต่อมา ก็ได้ประกาศปิดตัว Pyrex Vision พร้อมกับเปิดตัวแบรนด์ใหม่ Off-White อย่างเป็นทางการ ถึงแม้คอลเล็กชั่นแรกในปี 2014 จะไม่ได้ดังพลุแตกอย่างในทุกวันนี้ แต่หลาย ๆ คนก็เริ่มหันมาจับตามองเขาในฐานะดีไซเนอร์ และแม้ในปีแรกจะถูกกล่าวว่างานออกแบบนั้นไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ แต่เขาก็พัฒนางานออกแบบให้มีความแตกต่างและโดดเด่นมากยิ่งขึ้นเรื่อย

การเป็น King of Youth ข้อพิสูจน์ที่การันตีถึงความสามาถของ Abloh

ชื่อเสียงของ แอบโลห์ ทวีคูณความดังยิ่งขึ้นเมื่อเขากลายเป็นดีไซเนอร์อเมริกันผิวสีเพียงหนึ่งเดียว ที่ได้เข้าชิงรางวัล LVMH Prize for Young Fashion Designers (ปีเดียวกับ Craig Green และ Demna Gvasalia) ถึงแม้ปีนั้นผู้ชนะจะตกเป็นของ Marques Almeida แต่นักออกแบบสาย Street Fashion คนนี้ ก็ได้ถูกโลกของ High Fashion จับตามอง แอบโลห์ไม่หยุดที่จะพัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่งานสกรีนสไตล์ Street Fashion จะค่อย ๆ หายไป และถูกแทนที่ด้วยงานออกแบบอย่างประณีตในทุก ๆ คอลเล็กชั่น

ปัจจุบัน Off-White มี Flagship Store เป็นของตัวเองในฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมีข่าวว่ากำลังจะเปิดในประเทศไทยเร็วๆ นี้ ซึ่งยังไม่รวมถึง Stockist ตามร้านมัลติสโตร์ชื่อดังมากกว่า 50 ร้านทั่วโลก

ชีวิตส่วนตัว แอบโลห์ เขาเองเป็นคนที่แต่งตัวเรียบง่ายมาก ๆ เห็นได้จากเสื้อยืดจากแบรนด์สตรีตแฟชั่น และ แบรนด์สเก็ตบอร์ด กางเกงยีนส์ และรองเท้าดี ๆ สักคู่ ซึ่งส่วนมากจะเป็นแบรนด์ High-End

ทว่าในความเรียบง่ายนี้กลับมีความเท่แบบลงตัวอย่างบอกไม่ถูก ในทุก ๆ Fashion Week แน่นอน เขาย่อมเป็นหนึ่งในคนที่ถูกถ่ายภาพจากช่างภาพเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังถูกขนามนามว่าเป็น King of Youth จากการที่เขาพยายามผลักดัน youth culture รวมถึงผลักดันเด็กวัยรุ่นหน้าใหม่ ๆ ให้มีบทบาทในวงการแฟชั่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Lukas Sabbat, Ian Connor, Theophilus London หรือแม้กระทั้ง A$AP Rocky และ A$AP Bari ที่ได้มีโปรเจคร่วมกัน

นอกเหนือจากการเป็น Creative Director ให้กับแบรนด์ Off-White ของตัวเอง และ เป็นหุ้นส่วนของ RSVP Gallery แล้ว เขายังเป็น Creative Director ให้กับ DONDA บริษัท Creative Content ของ Kanye West รวมไปถึงการเป็นดีเจภายใต้ชื่อโปรเจคว่า Flat White

หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับเสื้อผ้าแนวสตรีทแวร์ของตัวเองแล้ว แอบโลห์ ก็ได้ถูกทาบทามให้มาออกแบบเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Louis Vuitton และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของกลุ่มเครื่องแต่งกายผู้ชาย (Ready Wear)

ทำให้เขาเป็นชาวแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่เป็นผู้นำในสายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าบุรุษของแบรนด์ ได้รับมอบหมายให้ดูแลการออกแบบเสื้อผ้าผู้ชายในคอลเลกชันของฤดูกาลต่าง ๆ จนกลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงแฟชั่นของโลกในปัจจุบัน ตลอดจนเป็นหนึ่งในดีไซเนอร์ผิวสีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับตำแหน่งผู้นำในด้านแฟชั่นของฝรั่งเศส สิ่งเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ที่การันตีถึงความสามาถของ แอบโลห์ ได้เป็นอย่างดี และนี่คงเป็นสาเหตุที่วัยรุ่นหลายๆ คนรวมไปถึงคนในวงการแฟชั่นเลือกที่จะตามติดชีวิตของผู้ชายคนนี้ ผู้ที่ถูกขนานนามว่า King of Youth

แหล่งอ้างอิงข้อมูล : แทงบอลออนไลน์