Cartier เครื่องประดับสัญชาติฝรั่งเศส อัญมณีสุดหรูหราระดับโลก
Cartier คือ แบรนด์เครื่องประดับสุดล้ำค่า ที่มีจุดกำเนิดจากฝรั่งเศส ที่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก อย่างกว้างขวางของคนทั่วโลก ซึ่งจุดเริ่มต้นของแบรนด์นั้น มาจากร้านเพชนธรรมดาเท่านั้น ที่ได้ก้าวเข้าสู่วงการจิวเวอร์รี่ ที่ยิ่งใหญ่ และมีอิทธิพลอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งอายุของแบรนด์นั้น ก็มีมากกว่า 170ปีเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับ คาร์เทียร์ นั้นได้รับขนานนามว่า “จ้าวแห่งวงการอัญมณี” ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องการันตี ที่ทั่วโลกนั้นยอมรับว่า มีการดีไซน์ และเป็นเอกลักษณ์ที่เจาะจงเลยว่า มองปุ๊บก็รู้ว่าเป็นแบรนด์อะไร และคงเชื่อว่าหลายๆท่านนั้น ก็อาจจะเป็นสาวก และได้เป็นที่รู้จักกับแบรนด์นี้ด้วยกัน และงานนี้เราจะพาทุกท่าน ไปย้อนรอยประวัติแบรนด์กันได้อย่างดีที่สุด
พาย้อนรอยกลับไป จุดเริ่มต้นของ Cartier
และสำหรับจุดเริ่มต้น ของแบรนด์นั้น ก็ได้มีการเริ่มต้นจาก The House of Cartierที่ได้มีการก่อตั้ง ปี ค.ศ. 1847 โดย หลุยส์ ฟรองซัวร์ คาร์เทียร์ ที่มีต้นกำเนิดมากจาก ร้านจิวเวอร์รี่เล็กๆ ที่จะอยู่ถนน Rue Montorgueil ในปารีส ซึ่งเขานั้นก็ได้รับกิจการต่อจาก อดอล์ฟ พิการ์ด (Adolphe Picardat)
ที่เขานั้นได้เป็นถึงช่างทำฬิกา ในเวลานั้น และก็ได้เป็นเด็กฝึกงาน ซึ่งทางหลุยส์เองนั้นก็ได้ มีการเรียนรู้เทคนิคต่างๆ ที่จะมีวิธีที่ทำต่างจาก อดอล์ฟจนเกิดความเชี่ยวชาญ ซึ่งหลังจากนั้นแล้ว คาร์เทียร์เองก็ได้ มากลายเป็นที่รู้จัก และเริ่มมีชื่อเสียง ที่เขานั้นได้ทำมันขึ้นมาจากฝีมือ ที่ไร้ที่ติของเขา
พร้อมทั้งยังมีการดีไซน์ ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมาก พร้อมทั้งไม่มีใครเหมือนเขาอีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ความต้องการ ของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด และต่อมา ปี ค.ศ. 1874 ทางอัลเฟรด คาร์เทียร์ ลูกชายของ หลุยส์ ฟรองซัวร์ คาร์เทียร์ ก็ได้เข้ารับช่วงกิจการต่อไป
และเขานั้นก็ได้ มีการตั้งเป้าหมาย ที่จะมีการขยายธุรกิจของเขาเอง เพื่อที่จะนำมาตอบโจทย์ ความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ และลูกค้าของเขาก็มี การเพิ่มจำนวนที่มากขึ้นอีกด้วย และมันก็ได้ทำให้เกิดการย้ายร้าน ของเขาเองนั้น ไปอยู่ที่ 13, Rue de la Paix ใจกลางเมืองปารีส เรียกได้ว่าเป็นลำเลทองเลยก็ว่าได้
ซึ่งสำหรับลูกค้าของเขา ในละแวกนั้นถือว่ามีฐานะมากเลยทีเดียว และไม่นานหลังจากนั้น อัลเฟรด คาร์เทียร์ ก็ได้มีการมอบอำนาจให้แก่ลูกของเขาทั้ง 3 คน หลุยส์ (Louis), ปิแอร์ (Pierre) และ ฌาคส์ (Jacques) ที่ได้เข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัว และด้วยความสามารถของลูกๆทั้ง 3 ของเขา ทำให้มีชื่อเสียง และประสบความสำเร็จตามมาหลังจากนั้น
จุดผลิกผันของแบรนด์กับ 3 พี่น้องตระกูลCartier
สำหรับช่วงเวลาหลังจากที่ พี่น้องทั้ง 3 นั้นได้ก้าวเข้ามาบริหารอย่างเต็มตัว เขานั้นก็มีการ เริ่มจดสิทธิบัตร ให้กับเครื่องประดับต่างๆ และนาฬิกาที่พวกเขา ได้ออกแบบกันขึ้นมา ซึ่งทางหลุยส์พี่คนโต ตัวเขาเองนั้นจะทำหน้าที่อย่างการพัฒนา และออกแบบสินค้ามากที่สุด ซึ่งสำหรับผลงานที่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่เขา
ก็จะเป็น นาฬิการุ่นแรกที่เขาออกแบบเอง อย่าง Santos ที่เป็นนาฬิกาข้อมือผู้ชายรุ่นแรก ของคาร์เธียร์ ซึ่งจะมีลักษณะที่ หน้าปัดนั้นจะแบน และมีกรอบสี่เหลี่ยม และตัวเขาเองนั้นก้ได้ออกแบบนาฬิกาเรือนนี้ ให้กับเพื่อนของเขา ที่ได้เป็นนักบินชาวบราซิล ชื่อว่า อัลแบร์โต ซานโตส-ดูมงต์ (Alberto Santos-Dumont) และในปี ค.ศ. 1904 เพราะด้วยความที่นาฬิกาแบบพกพา มันก็จะมีขนาดที่ใหญ่เทอะทะ แถมยังไม่สะดวกต่อการ หยิบขึ้นมาดูเวลาออกบิน จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อรุ่น Santos de Cartier นั่นเอง
และในปีเดียวกันนั้น หลุยส์เองนั้น ก็ได้รับมอบหมายที่ ได้เป็นนักออกแบบส่วนตัวให้กับ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 (Edward VII) ของสหราชอาณาจักร ซึ่งได้มีรับสั่งให้ ทำการออกแบบรัดเกล้า ที่เอาไว้ใช้สำหรับพิธีบรมราชาภิเษก ถึง 27 ชิ้น ด้วยกัน อีกทั้งยังได้กล่าวชมผลงาน ของคาร์เทียร์ว่า “Jewellers of the King and King of Jewellers” อัญมณีสำหรับราชา และราชาแห่งอัญมณี แถมยังได้รับหนังสือ รับรองที่ได้มาจากราชวงศ์อีกด้วย
ซึ่งมันถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี และทำให้แบรนดืนั้นได้เป็นที่ยอมรับมากกว่าแบบ แบบก้าวกระโดด เพราะด้วยความที่หลุยส์เอง นั้นได้มีความชื่อชอบ ในงานศิลปะ Art Nouveau เป็นพิเศษ ขยายความสำหรับ อาร์นูโว หรือ ศิลปะประยุกต์ ที่จะมีจุดเด่น นั่นคือการผสมผสานความงามจากธรรมชาติ มาใช้เป็นส่วนนึงของการออกแบบ
และด้วยความที่เขานั้นชื่นชอบ และมีความรู้ทางด้านนี้ เขาได้นำมาผสมผสาน ออกแบบเครื่องประดับของเขา รวมทั้งนาฬิกาได้อย่างลงตัว แถมยังมีการนำแพลตตินั่ม เพชร และหินมีค่าต่างๆ ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนนึงในการออกแบบซึ่งมันยิ่งทำให้เครื่องประดับ มีความงดงาม โดดเด่น เปล่งประกาย อย่างมากที่สุดเสียจริง
การผสมผสานที่ลงตัว อย่าง ความสง่างามของเสือดาว
ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่เป็นสุดยอดตำนานของแบรนด์ ทีไ่ด้มีส่วนสำคัญอย่างมากกว่า กับ ฌอน ทูส์แซงต์ (Jeanne Toussaint) เด็กสาวผู้มากความสามารถ จากประเทศเยอรมัน ที่ได้เริ่มออกเดินทงเผื่อตามหาความฝันของเขา ในกรุงปารีส ซึ่งได้มาพบกับ หลุยส์ คาร์เทียร์ และมีการตกลงร่วมงานกันในปี 1913
ซึ่ง “La Panthère” นั่นคือฉายาของเธอคนนี้ และด้วยความที่ตัวเธอเองนั้น ได้มีความชื่อนชอบใน ความสง่างามของเสือดาว ซึ่งมันสามารถสังเกตุได้ง่ายๆเลยว่า เธอนั้นคลั่งเสือดาวมากเพียงใด กับเสื้อผ้าของเธอ หรือจะเป้นของตกแต่งบ้าน ที่จะมีหนังลายเสือดาวที่เธอชอบ
และหากย้อนกลับไปในยุค ศตวรรษที่ 16-17 ก็ได้มีเทรนด์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย ที่มาจากเสือดาวแพนเธอร์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง เรียกได้ว่าเป้นสุดยอดแฟชั่นเสียจริง และเมื่อเธอได้มีโอกาสเข้ามา ร่วมงานเธอเองก็ได้ออกแบบ นาฬิกาและเครื่องประดับ ที่จะมีการเติมแต่ง ลายเสือดาวเข้าได้อย่างลงตัว ที่ได้ก่อเกิดเป็น นาฬิการุ่น Panthère ที่จะประดับด้วยเพชรและหิน
ซึ่งในปี 1917 เธอเองได้รับของขวัญจาก หลุยส์ คาร์เทียร์ 2 ชิ้น ด้วยกัน ซึ่งมันได้มาเป้นแรงบัลดาลใจ ในการออกแบบได้อย่างดี ซึ่งมันคือ Vanity Case กับ เคสใส่บุหรี่ ที่มีการประดับด้วยเสือดำแพนเธอร์ ซึ่งมันทำมาจากแพลตินั่ม เพชร และหิน และเสือดาวแพนเธอร์นี้ ได้กลับกลายมาเป็น สัญญลักษณ์ประจำตัวของเธอ เลยทีเดียว
แบรนด์Cartier ในยุคปัจจุบัน
สำหรับในยุคปัจจุบันนี้นั้น ทางแบรนด์ก็ได้มีการบริหารงานของ Richemont Group ที่ได้เป็นบริษัทด้านการเงินระหว่างประเทศ สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งก้ได้ถูกจัดไปอยู่ในอันดับ ที่เป็นแบรนด์ ที่จะมีมูลค่าสูงที่สุด ในลำดับที่ 59 ของโลกในปี ค.ศ. 2018 จากนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) นิตยสารธุรกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเราต้องบอกเลยว่า แบรนด์นั้นได้กลายมาเป็น ผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับสุดหรูระดับโลก ที่ได้รับกสนยอมรับมากที่สุด ด้วยผลงานการดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยจะมีการผสมผสานงานศิลปะ เข้าไปได้อย่างลงตัวมากที่สุด โดยทางแบรนด์นั้นก็จะมี อัญมณี เครื่องประดับ รวมถึงนาฬิกา น้ำหอม ที่ไม่ว่าจะเป็นสินค้าชนิดใดก้ตามแต่ มันเป็นผลงานศิลปะทุกชิ้น เรียกว่าเป็นผลงานที่แฝงด้วยคุณค่า และความสง่างามของแบรนด์ ที่เปรียบเสมอืนเสือดาวได้อย่างแท้จริง
แหล่งอ้างอิงข้อมูล : style.katexoxo.com
ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เกมออนไลน์
แบรนด์อื่นๆ ที่แนะนำ >>