Brand name fashion updates
Brand Name เปิดแบรนด์ที่หลายๆท่านนั้นจะต้องรู้จัก มีติดตัวแล้วปังแน่นอน
Brand name fashion updates
Brand Name เปิดแบรนด์ที่หลายๆท่านนั้นจะต้องรู้จัก มีติดตัวแล้วปังแน่นอน

Dolce & gabbana เปิดประวัติแบรนด์สุดหรูสัญชาติอิตาลี ที่ผู้นำแฟชั่นยังต้องมอง

Dolce & gabbana

Dolce & gabbana ย้อนรอยแบรนด์หรูระดับโลก ที่ไปที่มาที่คุณควรรู้

Dolce & gabbana โดลเช่ เเอนด์ กาบบาน่า อีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่น ที่เราจะปฏิเสธไปไม่ได้เลยว่า เป็นแบรนด์แฟชั่น ที่มาพร้อมเอกลักษณ์สุดโดดเด่น เพราะด้วยการเปิดตัวแบรนด์ ที่มีความสะุดุดตา โดยมีความแปลก ความเก๋ ซึ่งยังไม่ทิ้ง ความหรูหราออกไป จากแบรนด์แต่อย่างใด และด้วยการที่แบรนด์นั้น ได้รับแรงบัลดาลใจ มากจากวัฒนธรรมของอิตาลี กลิ่นอายของตัวแบรนด์นั้นจึง ตลบอบอวลไปกับสิ่งที่แบรนด์พยายาม จะถ่ายทอดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือว่าเป็นความโดเด่นอย่างสูง สำหรับผู้ที่ชื่อนชอบ และหลงใหลแฟชั่น นั้นได้เป็นที่รุ้จักได้ง่าย และได้แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ซึ่งสำหรับวันนี้ เราจะพาทุกท่านมาย้อนรอย ดูจุดเริ่มต้นของแบรนด์กันว่า มีการกำเนิดมาได้อย่างไร และแบรนด์ดังอย่างนี้ เริ่มมาจากดีไซเนอร์ 2คนจากชาวอิตาลี นั่นเอง

Dolce & gabbana

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Dolce & gabbana พร้อมเปิดประวัติแบบหมดเปลือก

สำหรับจุดเริ่มต้นของแบรนด์ มราถือว่าเป็น แฟชั่นเฮ้าส์สุดหรู จากสไตล์อิตาลี ที่ได้มีการเริ่มต้นขึ้นในปี 1985 ซึ่งได้มีต้นกำเนิดจาก 2นักออกแบบจากชาวอิตาลี อย่าง โดมินีโก โดลเช่ (Domenico Dolce) ที่เขาได้มีการเรียนออกแบบ ที่ซิซิลี และได้มีโอกาสทำธุรกิจเสื้อผ้า ของพ่อและแม่เขาก่อน ที่จะเริ่มทำงานเป็นดีไซเนอร์

ส่วน สเตฟาโน กาบบาน่า (Stefano Gabbana) เขาเองก็ได้เรียนจบในด้าน กราฟฟิกดีไซเนอร์ และได้มีโอกาสในการร่วมงานกับงานแฟชั่น จากการที่เขานั้นได้เป็น ผู้ช่วยในสตูดิโอการออกแบบที่มิลาน และทั้ง 2คนก็ได้มีการพบกัน ที่มิลาน โดยได้มีโอกาสใช้ชื่อแบรนด์อย่างDolce&Gabbana ซึ่งมาจากนามสกุลของเขาทั้งสอง

Dolce & gabbana
Stefano Gabbana และ Domenico Dolce ผู้ก่อตั้งแบรนด์

ซึ่งสำหรับพวกเขาเองนั้น ก็ได้มีการก่อตั้งสตูดิโอ ที่จะให้คำปรึกษาด้านแฟชั่น และออกแบบ ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาเองก็ได้เริ่มที่จะทำเสื้อผ้า ภายใต้แบรนด์ของพวกเขาเอง และได้มีการทำ คอลเล็คชั่นสำหรับ เสื้อผ้าผู้หญิงออกมาครั้งแรก ใบปี 1985 ที่ Milan Fashion Week

และสำหรับ คอลเลคชั่นนี้ ก็ถือว่าได้เป็นการนำเสนอ เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่ง และได้มีความมั่นใจ ในรูปร่างของตัวเอง และถือว่าได้เป็น คอลเลคชั่นแรกของแบรนด์อีกด้วย โดยได้มีชื่อว่า Real Women และทั้งคู่นั่นก็ได้ใช้ ผู้หญิงในท้องถิ่น มาเป็นนางแบบในครั้งนี้อีกด้วย

แต่ก็อาจจะต้องผิดหวังอยู่บ้าง เพราะยอดขายจาก คอลเลคชั่นแรก ไม่ได้เข้าเป้ามากเท่าที่ควร ซึ่งแบรนด์นั้น อาจจะต้องเกือบ ที่จะยกเลิกคำสั่งซื้อผ้า สำหรับคอลเลคชั่นชุดที่ 2  เลยทีเดียว แต่ด้วยความที่โชคยังเข้าข้าง และมีครอบครัวที่น่ารักอยู่ เพราะครอบคัรวของเขานั้น ก็มีการเสนอว่าจะส่วนในเรื่อง ของค่าใช้จ่ายอยู่

เลยได้มีการทำให้ ผ้าของเขานั่นที่ได้ มีการถูกส่งมายังมิลาน โดยการสร้างผลงานของเขาเองนั้น ได้มีการออกแบบ และสร้างผลงานสำหรับชิ้นที่ 2 ในปี 1986 และเราก็ได้มีการเปิดร้าน Dolce&Gabbanaที่ถือว่าเป็น ที่แรกในปีเดียวกันด้วย

ต่อมาก็ได้มีเกิด คอลเลคชั่นที่ 3 ขึ้นมา โดยครั้งนี้ได้มาพร้อมกับ วิธีแนะนำสำหรับ การใส่ที่มีมากถึง 7 แบบในหนึ่งชุด เพียงแค่คุณนั้นได้เปลี่ยน รูปแบบของเสื้อผ้า ที่สามารถใช้ตะขอ Velcro โดยจะยึดชุดเข้าด้วยกันไปด้วย และผลงานนี้ ถือว่าได้กระแสตอบรับได้อย่างดีขึ้น

ต่อจากนั้นไม่นาน เขาเองก็ได้มีการออกแบบ คอลเลคชั่นที่ 4 ที่มีการได้รับ ชื่อว่า The Sicilian Dress ที่ได้มีการผสมผสาน จากวัฒนธรรมจากแฟชั่นอิตาลี  และDomenico Dolce ก็ได้มีการดึงเอาวัฒนธรรม ของชาวซิซิลีของเขาเองนั้น นำออกมาใช้กับคอลเล็กชั่นนี้อีกด้วย

Dolce & gabbana

การส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ที่ทำให้เริ่มกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ต่อมาสำหรับแบรนด์นั้น ก็ได้มีการขยายสินค้าของตัวเอง และเริ่มที่จะ ส่งออกผลิตภัณฑ์ของเขา มายังประเทศญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ รวมไปถึงสหรัฐอเมริกา และต่อมาทางแบรนด์นั้นก็ได้มีการเปิด บูติคเป็นแห่งแรกในญี่ปุ่น โดยจะมีการร่วมมือ Kashiyama Group ที่ได้ขยายตลาดทางโซนเอเชียได้อีกด้วย

และต่อหลังจากนั้น ก็ได้มีการเปิดแสดงคอลเลคชั่น เสื้อผ้าสำหรับผู้ชายเป็นครั้งแรก และมันก็ยิ่งทำให้แบรนด์ของเขาได้รับ รางวัลคอลเลคชั่นผู้ชาย ที่มีความล้ำสมัยที่สุดจาก Woolmark ในปี 1991 ด้วยสิ่งนี้ทำให้แบรนด์นั้น เริ่มที่จะมีชื่อเสียงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และการทำเสื้อผ้าของเขานั้น ก็ได้มีการประดับคริสตัล โดยจะเป็นในคอลเลคชั่นของผู้หญิง Fall/Winter 1991 ซึ่งตัวชุดนั้นก็จะมีการตกแต่ง ด้วยเครื่องประดับคริสตัล แบ่งมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และมีเหรียญที่จะตกแต่งแบบเป็นเส้นๆ และมีการเปิดตัวชุด Corset สุดเซ็กซี่ในคอลเลคชั่นนั้นอีกด้วย และสำหรับเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่ทำให้เป็นที่จดจำได้ของแบรนด์ มันก็คือ ชุด Corset ที่ชุดสูทลายทาง และได้เป็นสูทเซ็กซี่สีดำ ที่จะเน้นส่วนเว้าส่วนโค้ง ของผู้หญิงอย่างชัดเจน

ช่วงเวลาสำคัญของแบรนด์ ที่ก้าวเข้าสู่ Hollywood

เรียกได้ว่า เป็นก้าวที่สำคัญสุดๆ กับแบรนด์ที่มีการต่อสู้กันมานาน ซึ่งการด้าวข้าวขึ้นไปสู่ระดับสากล ของแบรนด์นั้น ก็ได้เริ่มจากการที่ มาดอนน่า หลุยส์ ชิโคนี่ (Madonna Louise Ciccone) โดยเขานั้นมีการ สวมชุด Corset ที่ได้ทำจากอัญมณี เพชร พลอย และเสื้อแจ็กเกตจากแบรนด์

Dolce & gabbana
Madonna สวมชุด Croset และแจ็กเกตจากแบรนด์

และหลังจากนั้น ก็เกิดการร่วมมือกันขึ้น ระหว่างมาดอนน่า ที่ได้เริ่มมีการออกแบบ เสื้อผ้าเครื่องแต่งการให้เธอมากกว่า 1,500 ชุด ที่เอาไว้สำหรับการทัวร์คอนเสิร์ต ระหว่างประเทศเพื่อทำการ โปรโมทอัลบั้ม Erotica อีกด้วย และทางแบรนด์นั้น ก็ยังคงร่วมมือกันกับ มาดอนน่าอย่างต่อเนื่อง

ที่มีการออกแบบเครื่องแต่งกาย ที่เอาไว้ใช้ใน Drowned World Tour 2001 เพื่อจะทำการโปรโมทอัลบั้ม Music ของเธอและนอกจากนี้ ทางแบรนด์เองก็ได้ มีการออกแบบเครื่องแต่งกาย สำหรับการ ทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศของ มิสซี่ เอลเลียต (Missy Elliott), บียอนเซ่ (Beyoncé) และแมรี่ เจ ไบลจ์ (Mary J. Blige)

เพราะสำหรับงานออกแบบ ของDolce&Gabbana ก็จะได้เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่วงการ ภาพยนตร์ใน Hollywood และผลงานของแบรนด์ ที่ได้มีการออกแบบเสื้อผ้า ที่ได้อยู่ใน ภาพยนตร์เรื่อง Romeo + Juliet และสำหรับภาพยนต์ พวกเขาเองก็ได้มีการปรากฎตัว ในภาพยนตร์เรื่อง Nine ของผู้กำกับ Rob Marshall และส่วนงานด้านสไตลิสท์พวกเขาเอง นั้นก็ได้มีการทำงานมิวสิควิดีโอ ให้กับวง Duran Duran ในเพลง Girl Panic

เริ่มจากศูนย์ สู่ความเป็นแบรนด์ระดับโลก 

ต้องบอกเลยว่า ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีระยะเวลา อาจจะไม่มากนัก ซึ่งสำหรับการดีไซน์ช่วงแรกๆของแบรนด์ จะมีการเน้นไปที่ สีขาวดำ เรียบหรูและจะมีการสื่อที่ออกมาในรูปแบบ ของสไตล์ที่จะบ่งบอกความเป็นตัวเองได้ดีที่สุด ซึ่งแบรนด์เองนั้น ก็ได้มีการ ปรับเปลี่ยนการออกแบบให้ออกมาหลากหลาย และเพิ่มสีสันลูกเล่นเข้าไป

Dolce & gabbana

และการออกแบบแม้จะมีสีสันที่ฉูดฉาด แต่ยังคงความหรูหรา ออกมาให้สะดุดตากันมากทีเดียว และการดีไซน์ออกแบบของพวกเขา ทำให้แบรนด์นั้นมีเอกลักษณ์ มาจนปัจจุบันได้อย่างยอดเยี่ยม และเมื่อแบรนด์ได้ก้าวเข้าสู่ การเป็นบริษัทอย่างเต็มตัว ทางแบรนด์นั้นก็ได้ ก็เริ่มออกแบบชุด เครื่องประดับ ที่จะนอกเหนือไป จากเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของแบรนด์ด้วย

Dolce & gabbana

และ่อมาก็ได้มีการ ผลิตใหม่ในปี 1994 ภายใต้ชื่อ D&G คอลเล็กชั่นต่างๆ เสื้อผ้า และ Accessories ที่ทำเพื่อจะเหมาะกับวัยรุ่น โดยจะมีการเน้น ให้ใส่สบาย ซึ่งการแสดงรันเวย์ของ D&G ก็ได้ถ่ายทอดสดลงบนอินเตอร์เน็ตเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการทดลองโชว์ของรันเวย์ไปสู่สื่อรูปแบบใหม่ ได้อย่างดีทีเดียว และในตอนท้ายของ รายได้ของบริษัทนั้น อยู่ที่ 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เลยทีเดียว

แหล่งอ้างอิงข้อมูล : style.katexoxo.com

ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เว็บดูบอลสดฟรี

แบรนด์อื่นๆ ที่แนะนำ >> kate spade