Hermès ทำความรู้จักกับแบรนด์กระเป๋า ที่มาจากอานม้าจนมาสู่กระเป๋าที่มีแค่เงินก็ซื้อไม่ได้
Hermès ที่วันนี้เราจะมาเปิด ทุกประวัติ ความเป็นมาตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะเป็นไอเท็มชิ้นใดก็สร้างความฮือฮาให้กับวงการแฟชั่นมาอย่างสม่ำเสมอ เพราะกว่าที่จะมาถึงจุดๆนี้ หรือกว่าที่จะมาเป็นแบรนด์ระดับโลกขนาดนี้ ก็จะต้องมีเรื่องราว และการเดินทางระหว่างทางนั้น ที่ยังทำให้แบรนด์นั้นมีเอกลักษณ์แบบไม่มีวันเสื่อมคลายเลยทีเดียว หากจะพูดถึงเรื่องแฟชั่น หรือเล่าท้าวความไปจุดเริ่มต้น ของอาชาแห่งฝรั่งเศส ที่เขานั้นได้มีชื่อคล้ายกับเทพแห่งกรีก นี้นั้นว่ามีเรื่องราวอย่างไรบ้าง วันนี้เรามาจะมาให้คำตอบแก่ทุกท่านกัน
โดย แอร์เมส ที่เป็นถึงแบรนด์ Luxury สัญชาติฝรั่งเศส ต้องบอกเลยว่าการเริ่มต้นธุรกิจของเขา ที่มาจากอานท้าเท่านั้น ทำให้ได้มากเป็นแบรนด์เครื่อหนังราคาแพง และซื้อยากที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกเลยทีเดียว และอะไรคือความสำเร็จของแบรนด์ระดับโลกขนาดนี้ ที่มาในภายใต้โลโก้รูปม้า และถุงกระดาษสีส้มที่เราคุ้นตา และคุ้นเคยกัน วันนี้เราจะมาเดินทางค้นหาคำตอบกันเลย
เพราะอะไรถึงมาเป็น Hermès
เรามาเริ่มกับชายคนนี้ เทียร์รี่ แอร์เมส เขาเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1801 ที่เมืองเครเฟลด์ (Krefeld) ประเทศฝรั่งเศส เขานั้นจะมีพี่น้องทั้งหมด 6 คนด้วยกัน บิดาที่ได้มีชื่อเดียวกับเขาเลย นั่นก็คือ เทียร์รี่ แอร์เมส เป็นชาวฝรั่งเศส ส่วนมารดาของเขาได้มีชื่อว่า Agnese Kuehnen ชาวเยอรมัน
โดยมาจากเมืองเครเฟลด์ 8เป็นเมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “City of Velvet and Silk” ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการพิมพ์ลายและการผลิตสิ่งทอ ในตอนนั้นเมืองเครเฟลด์ ก็ยังถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจักวรรดินโปเลียน (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมัน) โดยที่เด็กชายเทียร์รี่ จึงมีสัญชาติฝรั่งเศสโดยกำเนิด
ซึ่งต้องบอกเลยนะว่า การที่ได้พื้นฐานในการผลิตสิ่งทอ หรือวัฒนธรรมทางด้านศิลปะ นั้นได้ซึมซับมาตั้งแต่เขาเด็กๆแล้วเลยทีเดียว และจุดที่เปลี่ยชีวิตของเขานั้น ก็ถือกำเนิดจากจุดเล็กๆ ที่เรียบง่ายของชีวิต โดยเธียรี่นั้นได้เข้ามาอาศัย ทางตอนเหนือของกรุงปารีสในปี 1828 ซึ่งมันคือจุดเริ่มต้น ของแบรนด์แอร์เมสอย่างจริงจัง
และในยุคนั้น การเดินทางก็ยังคงใช่พาหนะเป็นม้า ในการเดินทางอยู่ นั้นคือยุคที่เริ่มต้นจากการปรับเทคนิค ที่จะมาทำอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับม้า ไม่ว่าจะเป็นบังเหียน สายคล้องและอื่น ๆ และได้ไปถึงการแลกเปลี่ยนหนังก็ เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุ
โดยงานของเขาแต่ละชิ้นนั้น ก็ไดิขึ้นชื่อเรื่องความละเมียดละไม และมีจุดเด่นที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเบาะหนังฝีมือหนุ่มจากเครเฟลด์นั้นไม่ธรรมดาเลยเสียจริง และเมื่อปี 1831 เขากับภรรยาคู่ใจมี Charles-Emile และเขาได้มีลูก ดังนั้นเขาก็จะต้องพัฒนาธุรดิจของเขา ให้มากขึ้นไปอีก
ร้านแฮร์เมสเวิร์กช็อป จึงถือกำเนิดขึ้นแถว Grands Boulevards ในกรุงปารีส ช่วงแรกสินค้าของเธียรี่มีเพียงแค่เครื่องหนัง และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขี่ม้า ทั้งอานและบังเหียน เพื่อตอบสนองให้กับชนชั้นสูงที่มีความต้องการอุปกรณ์เหล่านี้ ในระดับที่เหนือกว่าคนอื่นนั่นเอง
จึงทำให้แอร์เมส นั้นก็จได้ดำรงอยู่ได้ และก็ได้เป็นสัญลักษณ์ แห่งแบรนด์ชนชั้นสูงของฝรั่งเศส ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีการการันตี ด้วยเหรียญรางวัลจากงาน Exposition Universelle ในงานจัดแสดงผลงานระดับโลกในปี 1855 และ 1867
และอาณาจักรความยิ่งใหญ่ ของแอร์เสมนั้นก็ได้ เริ่มขยายตัวเมื่อชาร์ลส์-เอมิล ได้เข้ามาดูแลกิจการอย่างเต็มตัวในปี 1880 และโยกย้ายร้านไปที่ 24 rue du Faubourg Saint-Honoré หลังจากที่ก่อนที่จะนำลูกชาย 2 คนเข้ามาช่วยกิจการจนสามารถ แผ่ขยายสินค้าแอร์เมสไปได้ทั่วโลก
ทำไม แอร์เมส ถึงเป็นแบรนด์ที่มีแค่เงินก็ซื้อไม่ได้
หลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่า ทำไมแบรนด์เนมอย่างแอร์เมสนั้น ถึงมีเงินก็ซื้อไม่ได้ เพราะทั้งที่ราคาของแต่ละชิ้นนั้น ก็ค่อนข้างที่จะสูงอยู่พอสมควรเลยทีเดียว และด้วยความ “แอร์เมส” นั้นได้เข้าไปแทรกซึมเข้าในวัฒนธรรมฝรั่งเศสแบบเต็มตัวรากฐาน
ที่เริ่มต้นมาจากม้าแอร์เมส ก็ขาดม้าไม่ได้พวกเขาไม่เคยละทิ้งตัวตน ชุดเสื้อผ้าเครื่องประดับ ที่เกี่ยวข้องกับการขี่ม้าก็ยังมีการสอกแทรก เข้าไปในคอลเล็กชั่นอยู่เสมอ ที่ในช่วงปี ‘30s-‘40s ก่อนที่เอมิล-เมาริส จะส่งท้ายด้วยการปล่อยไลน์น้ำหอม และเนกไทผ้าไหมที่โด่งดังจนถึงทุกวันนี้
และในปี ค.ศ. 1956 Hermès ได้มีการเปิดตัวกระเป๋าถือ ที่ได้มีชื่อเรียกว่า Sac à dépêches ที่เป็นกระเป๋าที่อดีตนักแสดง เกรซ เคลลี่ หรือคู่หมั้น ของเจ้าชายแรนีแยร์ (Prince Rainier) แห่งโมนาโค ที่ได้นำกระเป๋านั้นมาบังท้องของเธอเอาไว้ และเพื่อที่จะปิดข่าวในการตั้งครรภ์ ในขณะกำลังถูกถ่ายภาพ โดยปาปารัซซี่ของนิตยสารไลฟ์
และอย่างเป็นที่แน่นอนเลยว่า เมื่อได้มีการตีพิมพ์ออกไป ทำให้หลายเป็นกระแสฮือฮา ได้อย่างมากเลยทีเดียว ทำให้เหล่าคนที่ชื่นชอบ ในแฟชั่นต้องถามหา และทำให้หลายๆคนนั้นก็ ต่างพากันมาที่ร้านแอร์เมส โดยมาพร้อมกับถามหา “Kelly Bag”
ซึ่งทางแบรนด์ได้เห็น โอกาสอันดี ในการเปลี่ยนชื่อรุ่นกระเป๋า เพื่อที่จะให้รับกับกระแส ที่ได้กำลังเป็นนิยมรวมทั้งให้ง่ายต่อการจดจำ ชื่อรุ่น “Hermès Kelly” จึงถือกำเนิดขึ้น โดยที่มาของชื่อมาจาก Grace Kelly นั่นเอง และอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ ทำให้กระเป๋า แอร์เมส น่าจดจำได้อีกครั้งหนึ่ง
และเมื่อ Jean Louis ได้มาออกแบบกระเป๋า ให้แก่นักแสดงหญิงอย่าง เจน เบอร์กิน (Jane Birkin) ที่ทั้งคู่นั้นได้พบกันโดยบังเอิญ บนเครื่องบิน ในระหว่างเดินทาง จากปารีส ไปลอนดอน เจน พูดกับ ฌอง-หลุยส์ ว่า “มันยากนะที่จะหากระเป๋าสำหรับการเดินทางในวันหยุดสักใบ”
ลแะในตอนนั้นเอง ฌอง-หลุยส์ก็ได้มีเกิดไอเดีย ในการออกแบบกระเป๋า เพื่อเจนโดยเฉพาะ เป็นรุ่นที่ผลิตมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของเธออย่างชัดเจน และเมื่อทำการผลิตเสร็จแล้ว เขาก็จะได้ส่งมอบกระเป๋าให้แก่เจน เรื่องราวแรงบันดาลใจ
ในการออกแบบกระเป๋าใบนี้ ก็ได้เป็นที่กล่าวถึง และโด่งดังทันทีที่ออกสื่อและสำหรับใบนี้คือรุ่น Brikin Bag ที่ในปัจจุบันกระเป๋ารุ่นนี้ นั้นก็ยังคงรูปแบบ กระเป๋าดังเดิมเอาไว้ไม่มีเปลี่ยนแปลง และยังคงเป็น ITEM ที่ได้รับความนิยมมาตลอด
เอกลักษณ์ที่น่าจดจำของแบรนด์
ต้นกำเนิดนั้น ออกมาเมื่อ ปี ค.ศ. 1945 ก็ได้มีการกำหนดรถม้า 4 ล้อพร้อมกับผู้ติดตาม ที่ได้เป็นเครื่องหมายการค้า โดยมีการออกแบบ Alfred de Dreux โดยเป็นการสื่อว่าถึงแม้ปัจจุบันนี้นั้น ทางแบรนด์จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในเรื่อง เครื่องหนัง แฟชั่น เสื้อผ้า
แต่เมื่อเราย้อนกลับไปจุดเริ่มต้น ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับHermès คือ “การผลิตอานม้า” เพราะเนื่องจากแบรนด์ก็ได้มีความต้องการ ที่จะบอกเล่าเรื่องราวมของตนเอง ภายใต้การออกแบบเครื่องหมายการค้านั้น จึงมักจะเห็นม้าเป็นส่วนสำคัญอยู่เสมอ เพราะแบรนด์ยังคงตระหนักเสมอว่า ม้าคือลูกค้าคนแรกของเขานั่นเอง
โดยจุดเด่รของแบรนด์ ที่ทำหลายๆคนนั้นหลงรัก และต้องการครอบครองกระเป๋าของ แอร์เมสนั่น ก็คือ กระเป๋าทุกใบจะได้รับการตัดเย็บจากช่างฝีมือ โดยช่างนั้นได้มีการฝึกอบรมอย่างต่ำ 3 ปีเลยทีเดียว พร้อมทั้งจะได้รับเกียรติบัตร ในการฝึกอบรมเมื่ออบรมสำเร็จแล้วด้วย
เพื่อเป็นเครื่องหมายการันตรี ว่าช่างมีฝีมือคนนั้นจะมีคุณภาพ มากพอที่จะผลิตกระเป๋า และอีกหนึ่งความพิเศษของ Hermès Bag นั้นก็คือ หากกระเป๋าที่ลูกค้าซื้อไปแล้วได้เกิดมีปัญหา ชำรุด หรือจะต้องนำกลับมาซ่อม ทางแบรนด์ ก็จะให้ช่างคนเดิม ที่เป็นผู้ผลิตกระเป๋าใบนั้น เป็นคนซ่อมให้ลูกค้าด้วยตนเองด้วยแหล่ะ
ติดต่อเราได้ที่นี่ >>> คลิ๊ก!!