Brand name fashion updates
Brand Name เปิดแบรนด์ที่หลายๆท่านนั้นจะต้องรู้จัก มีติดตัวแล้วปังแน่นอน
Brand name fashion updates
Brand Name เปิดแบรนด์ที่หลายๆท่านนั้นจะต้องรู้จัก มีติดตัวแล้วปังแน่นอน

Paul Smith เปิดประวัติแบรนด์แฟชั่นคลาสสิคจากอังกฤษ

Paul Smith แบรนด์ที่สะท้อนถึงความสดชื่นไปพร้อมกับความเรียบหรู

Paul Smith แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำของโลก ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ ลวดลายเส้นตรงแนวตั้ง พร้อมสีสันอันหลากหลาย สะท้อนถึงความสนุกสนาน และความสดชื่นรื่นรมย์ ของผู้ออกแบบ แต่ในขณะเดียวกันบางครั้ง เราก็สามารถที่จะเห็นชุดเนี้ยบ เรียบเท่ แล้วก็ยังหรูหราอย่างมีสไตล์ ได้จากแบรนด์ของผู้ชายคนนี้เช่นกัน ในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับดีไซเนอร์ชื่อดังที่เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถอันเหลือล้น ซึ่งเราได้รวบรวมเอาเรื่องราวที่น่าสนใจ และ ประวัติแบรนด์แฟชั่นระดับโลกที่มีอายุกว่า 5 ทศวรรษ

Paul Smith ชายผู้เป็นที่รักยิ่งของวงการแฟชั่น และดีไซเนอร์

พอล สมิธ เกิดเมื่อปี พ. ศ. 2489 ที่เมืองน็อตติงแฮม ประเทศอังกฤษ ความทะเยอทะยานแรกเริ่มของเขา คือการเป็นนักปั่นจักรยานมืออาชีพ เขาเริ่มเรียนวิชาตัดเสื้อ และในที่สุดก็เริ่มทำงาน กับช่างตัดเสื้อ Savile Row ชื่อ Lincroft Kilgour ซึ่งใครจะรู้ว่าผู้ชายธรรมดาที่เข้ามาเรียนวิชาตัดเสื้อ จะกลายเป็น เจ้าของแบรนด์ระดับโลกในเวลาต่อมา เขาได้กลายเป็น ผู้สร้างเสื้อเชิ้ตผู้ชาย ที่มีเอกลักษณ์ แลดูประณีต เรียบ ขรึม และเท่ แบบต้นตำรับเมืองผู้ดี แถมขณะเดียวกัน ก็ยังผสมผสานอารมณ์สนุก เติมเต็มเข้าไปด้วย ได้แก่ แถบสีต่าง ๆ หรือกระดุมข้อมือ ที่ประดับไปด้วย สีสันลวดลายสะดุดตา ซึ่งทำให้ผลงานออกแบบเสื้อผ้าของเขา มีกลิ่นอายของแฟชั่นจากเกาะอังกฤษที่ดูงามสง่า ดูเก๋า แต่ไม่เก่า คงไว้ซึ่งความเยาว์วัย  โดยถ้าเป็นเสื้อเชิ้ต ที่มีลวดลายด้วย ยิ่งไม่ต้องห่วง เพราะสีสันลูกเล่น จะแพรวพราว จนรุ้งกินน้ำต้องอาย ซึ่งนี่ก็เป็น ลักษณะเฉพาะอีกอย่าง ของ พอล สมิธ

 

paul smith
ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Paul Smith

 

พอล สมิธ เรียกได้ว่า เป็นศิลปินอัจฉริยะ อย่างแท้ทรู จากการบอกเล่า ของตัวเขาเองที่ว่า ไอเดียเด็ด ๆ และแรงบันดาลใจ ของเขามักจะปรากฎขึ้นมา อย่างปุ๊บปั๊บ ฉับพลัน ซึ่งขนาดตัวเขาเอง ยังไม่รู้ว่า เขาได้รับได้ไอเดียบางอย่างขึ้นมาตอนไหน ผู้ออกแบบเสื้อผ้าที่ดีจะต้องบอกตัวเองได้ว่าความคิดแบบไหนที่บ่งบอกถึงรสนิยมที่ยอดเยี่ยม และแบบไหนที่บ่งบอกถึงรสนิยมที่ห่วยแตก ซึ่งสำหรับตัวเขาแล้ว ถ้าพูดถึงสไตล์บริติชแบบอังกฤษนั้น นั่นหมายถึงความประณีตของฝีมือและการผลิต ความเป็นต้นตำรับ และอารมณ์สนุกสนาน

จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการแฟชั่น จิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์

แบรนด์ พอล สมิธ ได้ก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่เขายังวัยหนุ่ม สมัยที่เขายังชื่นชอบและต้องการที่จะเป็นนักขี่จักรยานมืออาชีพ ในตอนนั้นเมื่อวัย 17 ปี เขาได้ประสบอุบัติเหตุจากการขี่จักรยาน จนต้องเข้าโรงพยาบาบเป็นระยะเวลาถึง 6 เดือน ซึ่งนั่นทำให้เขาได้พบกับเพื่อนใหม่ในช่วงเวลานั้น และการนำมาในยุคที่วัยรุ่นมักจะพบกันตามผับบาร์ทั่วไป  เขาได้ลิ่มรสชาติของเพลง Rolling Stones Miles Davis David Bailev ในยุคที่ดนตรีเป็นสื่อสุนทรียภาพ

2 ปีต่อมา เขาก็ได้เปิดร้านเรื่องแต่งกายเล็ก ๆ ขึ้นในเมือง Nottingham ร่วมกับแฟนสาวซึ่งกลายมาเป็นภรรยาในปัจจุบัน จนเมื่อปี 1976 ก็ตามมาด้วยงานโชว์เสื้อผ้าชายชุดแรกใน Paris ภายใต้ชื่อแบรนด์ พอล สมิธ

แบรนด์แฟชั่นที่บุกทะลวงตลาดทั่วโลก ด้วยคุณภาพและความท่องแท้

แม้ว่า แบรนด์ของ พอล สมิธ จะเริ่มต้นด้วย เสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย แต่ปัจจุบัน แบรนด์นี้ ก็ได้ขยายฐานลูกค้าไปสู่สินค้ากลุ่มอื่นอีกมากมาย ผลงานของ พอล สมิธ บุกทะลวงตลาดกว่า 30 ประเทศทั่วโลก มีร้านของตัวเองเฉพาะในอังกฤษ 14 แห่ง และ 200 สาขาในญี่ปุ่นไม่ต้องแปลกใจ หากในปี พ.ศ. 2549 บริษัท พอล สมิธ จะมีรายได้อยู่ที่ 300 กว่าล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 21,000 ล้านบาท เพราะนอกเหนือจากการขายสินค้าของตัวเองแล้ว เขาก็ยังมีแรงไปแจมกับผู้ผลิตรายอื่นในการออกแบบสินค้าต่าง ๆ อีกด้วย เช่น รถมอเตอร์ไซค์ของบริษัท Triumph, MINI Cooper หรือแม้กระทั่งหุ่นยนต์กระต่ายของบริษัทคิทโรบอท

สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ เห็นถึงความสามารถอันล้นเหลือของ พอล สมิธ จึงได้พระราชทานยศอัศวิน ให้แก่ พอล สมิธ ในปี พ.ศ. 2544 ซึ่ง พอล สมิธ ก็ยังคงสร้างสรรค์ผลงานออกมาเรื่อย ๆ ให้ผู้คนได้ชื่นชมกันอยู่ต่อเนื่อง

50th Anniversary Capsule Collection ที่เกิดมาจากความทรงจำในอดีต

คอลเล็กชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจนั้น มาจากการรื้อฟื้นอดีตความทรงจำของ พอล สมิธ เมื่อตอนที่เขาได้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1980 ที่เมืองโตเกียว ซึ่งในตอนนั้นเขาก็ได้พบกับเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการทำโมเดลอาหาร แน่นอนว่าเขาได้ซื้อโมเดลจานสปาเก็ตตี้มา และมันก็ได้กลายเป็นที่โปรดปรานของเขามากจนต้องเก็บไว้ในห้องทำงานหลายปีเลยล่ะ จนที่สุดมันก็ได้กลายมาเป็นลายพิมพ์กราฟฟิกบนเสื้อเชิ้ตในเวลาต่อมา กลายเป็นคอลเล็กชั่น Fall/Winter 1994 ซึ่งในยามนั้น แค่ภาพสปาเก็ตตี้ธรรมดา ก็ดันกลายเป็นสินค้าขายดีเทน้ำเทท่าในทันที แถมยังเป็นซิกเนเจอร์ของ พอล สมิธ อีกด้วย

ในปี ค.ศ. 2020 คอลเล็กชั่น 50th Anniversary Capsule Collection ก็ถูกสร้างสรรค์ออกมาโดย พอล สมิธ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้าสู่ปีที่ 50 ของแบรนด์ โดยลวดลายกราฟฟิกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคอลเล็กชั่น Fall/Winter 1994 นั้น ก็ได้กลายเป็นจุดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้ นอกจากนั้นแล้วยังมีการตกแต่งประดับไปด้วยลวดลายดอกไม้ และแอปเปิ้ล ลงบนเสื้อผ้าต่าง ๆ ที่หลากหลายกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น เสื้อฮู้ด กระโปรง กางเกง หมวกทรงบักเก็ต และกระเป๋าต่าง ๆ

 

 

ในปัจจุบันสินค้าภายใต้ชื่อแบรนด์ พอล สมิธ ตอนนี้เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกการใช้งานของชีวิตประจำวันของทุกคน เพราะมีไลน์การผลิตทั้งหมด 12 ไลน์การผลิต ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสำหรับบุรุษ เสื้อผ้าสำหรับสตรี เสื้อผ้าสำหรับเด็ก เครื่องประดับต่าง ๆ น้ำหอม กระเป๋า รองเท้า ปากกา แม้กระทั้งของขวัญตามเทศกาลต่าง ๆ

 

 

ธุรกิจของ พอล สมิธ ได้ขยายไปทั่วโลก มากกว่า 70 ประเทศ นั้นก็เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม โดย พอล สมิธ ได้จำนายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขาย ผ่านร้านค้าแบบเดี่ยว ๆ ในร้านระดับไฮเอนด์ หรือทั้งในห้างสรรพสินค้า รวมถึงตามอาคารผู้โดยสารในสนามบิน อีกทั้งส่วนของการค้าทางออนไลน์ เว็บไซค์ระหว่างประเทศ และร้านค้าบูติค

 

paul smith

 

แหล่งอ้างอิงข้อมูล : style.katexoxo.com

ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เกมออนไลน์

แบรนด์อื่นๆ ที่แนะนำ >> Patek Philippe